ห้วงนี้ “ค่ายภูมิใจหนู” ดูหมองคล้ำเด่นชัดจัดเต็มจากปมร้อนที่เซซัดประดังเข้ามาดุจพายุลูกใหญ่
ประเด็นแรก ศาลฎีกาแผนกคดีนักการเมือง ชั้นอุทธรณ์ พิพากษายืน จำคุกคนละ 9 เดือน 3 สส. ภูมิใจไทย คดีเสียบบัตรแทนกัน ประเด็นที่2 บุกจับญาติ “ชาดา” คาโรงแรมกลางกรุง มั่วสุมเสพยา ยึดอาวุธปืน-กระสุน ประเด็นที่3.การพ่ายแพ้เรื่องกัญชา หลังผลักดันปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดจนกลายเป็น “กัญชาเสรี” และประเด็นที่ 4 การยุบพรรคภูมิใจไทย
เริ่มจากประเด็นแรก ศาลฎีกายืนโทษจำคุก 9 เดือน 3 อดีต สส.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้แก่ นางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ อดีต สส.แบ่งเขต จังหวัดพัทลุงเขต 2 และนายภูมิศิษฏ์ คงมี อดีตสส.แบ่งเขต จังหวัด พัทลุงเขต 1โดยคนที่ดังสุดคือ หัวจ่ายระดับสายแข็ง นางนาที รัชกิจประการ ภรรยาของ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน
สำหรับนางนาที ก่อนหน้านี้ เคยโดนคดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ จำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี โดยประเด็น3 อดีตสส.พรรคต้องคำพิพากษา นั้น “เสี่ยหนู”แสดงทัศนะอย่างหล่อ ว่า ” บ้านเมืองมีกฎหมาย ต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายเป็นข้อที่พิสูจน์ให้เห็นว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ฉะนั้น เวลาพวกตนไปปราบยาเสพติดหรือผู้มีอิทธิพล หรือจับกุมผู้กระทำความผิด ชัดเจนว่าไม่มีใครมาเอื้อกับใครได้ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย”
ประเด็นที่ 2จับญาติ “ชาดา” มั่วสุมเสพยา งานนี้ เสี่ยหนูออกตัวแรงจัด ว่า”ตนก็อ่านข่าวคนอื่นสงวนชื่อหมด ยกเว้นคนเดียวที่มีนามสกุลไทยเศรษฐ์คนเดียวไม่ยอมสงวน ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ และ นายชาดา มีญาติเป็นร้อยเป็นพัน ใครทำผิดอะไร เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้มีการช่วยเหลือหรือมีอภิสิทธิ์ใดใดทั้งสิ้น ขณะเจ้าตัวอย่างชาดา เจ้าพ่ออุทัยธานี เล่นบทตัดหางปล่อยวัด ออกมายอมรับว่าคนถูกจับเป็นหลานจริง นิสัยเกเร เคยตักเตือนแล้ว ลั่นให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีเต็มที่
ก่อนนี้ เคยปรากฏข่าว ผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่งที่เป็น ลูกเขยของนายชาดา ถูกตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. จับกุมหลังพบการร้องเรียนเรียกรับสินบนจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการระบบประปาหมู่บ้านแบบบาดาล โดยครั้งนั้น นายชาดา สั่งให้ลูกเขยลาออกจากการเป็นนายกเทศมนตรีทันที และคดีนี้ทาง เจ้าหน้าที่ ส่งให้ทางอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง ตามขั้นตอนกฎหมายไปแล้ว เมื่อช่วงเดือน พ.ค. 67 ที่ผ่านมา
ประเด็นที่ 3 ปม”กัญชาเสรี”หนึ่งในนโยบายเรือธงของค่ายภูมิใจไทย ช่วงแรกๆ เสี่ยนูก็เกรี้ยวกราด ฟาดไม่ยั้ง ที่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันหักนโยบายกัญชาเสรี แต่ต่อมาก็เบาบางลง ยอมงอ ไม่ยอมหัก ล่าสุด บอกถึงประเด็นนำ กัญชากลับเข้าในบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 ว่า เรื่องนี้ถือเป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อยู่แล้ว วันนี้ตนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องและถือว่าได้ทำตามสัญญาที่ได้เคยให้ไว้กับประชาชนเป็นที่เรียบร้อย
ประเด็นที่ 4 ปมยุบพรรคภูมิใจไทย จาก ปมเงินบริจาค หจก.บุรีเจริญ ล่าสุดนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ระบุว่า”คำร้องยุบพรรคภูมิใจไทยอยู่ระหว่างดำเนินการของเลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง จากผู้ร้อง ผู้ที่เกี่ยวข้อง และพยานหลักฐานจากหน่วยงานต่างๆ ขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม บางครั้งต้องใช้เวลา ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของแต่ละเรื่อง”
อย่างไรก็ตามที่น่าสังเกตุว่าห้วงนี้ ค่ายภูมิใจไทย โดนกระแทกหนักๆหลายดอก เกิจการเมืองระบุว่า “เป็นการเตะเบรคภูมิใจไทย ไม่ให้เหิมเกริม เพื่อป้องกันไม่ให้ข้ามขั้วนั้นเอง” ซึ่งต้องติดตามว่าเสี่ยหนู และพวกพ้อง จะกลับมาโดดเด้งทางการเมืองได้อีกหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews