วันแรกของการประชุมสภาฯ (สมัยวิสามัญ) เพื่อพิจารณาร่าง พรบ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท นายกรัฐมนตรี ยืนยันนำเม็ดเงินไปฟื้นฟูแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ คาด GDP โตขึ้น ร้อยละ 3.5 พร้อมย้ำปลายปีนี้ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถึงมือคนไทยแน่นอน ขณะ “ชัยธวัช” ผู้นำฝ่ายค้านฯ มองรัฐบาลจัดงบน่าผิดหวัง ด้าน “จุรินทร์” จากพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า จัดงบประมาณเหมือน “เป็ดขี้เหร่” และให้ฉายานายกฯ ว่า “เป็นนักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ”
วันแรกของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ เพื่อพิจาณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท วาระแรก มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม
โดยเวลา 09.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ชี้แจงหลักการและเหตุผลต่อที่ประชุม ตอนหนึ่ง ว่า ปลายปี 2567 นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท จะถึงมือคนไทย 50 ล้านคน เป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทั่วถึวตั้งแต่ระดับฐานราก ไปยังพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้เกิดการใช้จ่าย สั่งผลิตสินค้า จ้างงาน และหมุนกลับมาเป็นภาษีให้กับรัฐ เพื่อใช้ในการลงทุนเพื่อสร้างขีดความสามารถให้กับประเทศต่อไป
นายกฯ ชี้แจงด้วยว่า จากภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ ที่มีปัญหาหนี้สินครัวเรือน สูงกว่า 91.3% ต่อจีดีพี ซ้ำกับปัญหาหนี้นอกระบบ เอสเอ็มอี ที่มี 3.2 ล้านราย ในกลุ่มดังกล่าว เข้าไม่ถึงสินเชื่อของสถาบันการเงินทำให้การเติบโตของเอสเอ็มดีอยู่ในระดับต่ำ ทำให้รัฐบาลต้องทำนโยบายงบประมาณขาดดุล เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้ต่อเนื่อง โดยเม็ดเงินจำนวนมาก จะไหลจากภาครัฐไปสู่เอกชน ให้เกิดการสั่งซื้อสินค้าบริกร หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ประมาณการณ์ GDP มีแนวโน้มที่จะขยายตัวในช่วงร้อยละ 2.5 ถึงร้อยละ 3.5
จากนั้น นานชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรลุกขึ้นเปิดอภิปรายว่า การจัดทำงบประมาณน่าผิดหวัง ทำแบบ “เจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้“ ด้วยการเอาประเทศเป็นเดิมพันดันทุรังเดินหน้าโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” 10,000 บาท อีกทั้งการจัดงบแบบนี้ เสี่ยงเกิดหลุมดำ ดูดเม็ดเงินออกนอกประเทศ โดยตลอดระยะเวลาที่บริหารราชการแผ่นดินมาประชาชนยังไม่มีความเชื่อมั่น เพราะที่มาของการจัดตั้งรัฐบาลตั้งแต่แรกไม่ชอบธรรม
ทั้งนี้ ในระหว่างที่นายชัยธวัชอภิปรายช่วงใกล้จบ บรรดา “องครักษ์เพื่อไทย” ต่างลุกขึ้นทำหน้าที่ บอกว่า รับไม่ได้พูดว่า “เจ๊ง” เป็นคำ ไม่สุภาพ-เสียดสี-ใส่ร้าย แต่ประธานการประชุมก็สามารถควบคุมการประชุมได้ตามปกติ
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า การจัดงบปี 68 เป็น”งบเป็ดขี้เหร่” มีรายได้น้อย รายจ่ายสูง และยังขาดดุล รวมถึงประมาณการ GDP โตเกินจริง จึงขอให้ฉายานายกฯ ว่า เป็น “นักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ” ที่กู้จนจะทะลุเพดาน ส่งผลให้เกิดหนี้สาธารณะ เพิ่มสูงตลอดอายุรัฐบาล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews