Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“ทรัมป์” มา ทองพุ่ง ขึ้นแรง

จับสัญญาณราคาทองคำในห้วงจังหวะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ “โจ ไบเดน” กับ “โดนัลด์ ทรัมป์”ขึ้นดีเบตประชันหน้าครั้งแรก ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี ซึ่งผลโพล ของซีเอ็นเอ็น หลังดีเบตเสร็จสิ้นลงระบุว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้

 

 

 

ในมุมมองบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ประเมิณการดีเบตยกแรก นโยบายหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของทั้ง 2 ผู้นำ ล้วนมีนโยบายเหมือนกันคือ การเดินหน้ากีดกันการค้าสหรัฐ – จีนและหากพิจารณาในปีนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน นโยบายฝั่ง “โดนัลด์ ทรัมป์” ให้ความเห็นนโยบายคือ 1.) สนับสนุนการใช้ Cryto Currency 2.) ภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยเสนอการลดภาษีนิติบุคคลลงต่ำกว่าระดับ 21% ในปัจจุบัน ประเมินที่ 20% ซึ่งบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐและบริษัทจดทะเบียนที่มีฐานธุรกิจในสหรัฐ

 

 

สอดรับกับ “ฮั่วเซ่งเฮง” มองการดีเบตดังกล่าว ว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” มีคะแนนความนิยมนำประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” อยู่ ซึ่งนโยบายของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ไม่ว่าจะเป็นนโยบายกีดกันการค้าโดยเฉพาะจีนและประเทศอื่น ๆ อาจก่อให้เกิด Trade war ที่รุนแรง และอาจทำให้ต้นทุนการผลิต และเงินเฟ้อพุ่งสูงได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว นโยบายของ “โดนัลด์ ทรัมป์” จะเป็นผลบวกต่อทองคำ

 

 

ทั้งนี้ จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า เช้าวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น. สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทอง โดยราคาทองในประเทศปรับขึ้น 150 บาทต่อบาททองคำและปรับขึ้นอีก 50 บาทต่อบาททองคำในเวลาต่อมา ซึ่งการประกาศราคาทองดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ “โจ ไบเดน” และ “โดนัลด์ ทรัมป์” แสดงวิสัยทัศน์แล้ว 30 นาที

 

 

ล่าสุด ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 40,400 บาท ขายออก 40,500 บาท

 

 

ทองรูปพรรณ รับซื้อ 39,673.72 บาท ขายออก 41,000 บาทด้านนายกสมาคมค้าทองคำ “นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” ให้ความเห็นกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่าช่วงนี้ราคาทอง อาจจะมีการปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ ทั้งนี้ มองปัจจัยที่จะส่งผลต่อราคาทองก็คือนโยบายการเมือง, เศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมถึงหากมีสงคราม ก็จะเป็นแรงผลักดันให้ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกอีกเรื่องหนึ่งก็คือธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ หันมาซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพื่อเป็นทุนสำรองเพิ่มมากขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube