นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อมาตามนัดศาลนัดพิจารณาคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้ฟ้องในคดีข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เป็นของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ 2 คดี
โดยนายอัจฉริยะ ระบุว่า ตามข้อตกลงกันในวันนี้จะมีการตกลงในเรื่องของการถอนฟ้องคดี ซึ่งตนไม่ทราบว่าทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาในวันนี้มีการตกลงในเรื่องของการถอนฟ้องคดีซึ่งตนไม่ทราบว่าทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะถอนจริงตามที่ได้ตกลงกันหรือไม่ แต่ทางเราก็พร้อมที่จะขึ้นศาลสืบพยานกันในวันนี้ ตนและพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ วันนี้ไม่สามารถที่จะเลื่อนนัดกันได้ทั้งสองฝั่งเพราะมีการเลื่อนนัดมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงก่อนหน้านี้มีการดีลรับข้อตกลงกันบางเรื่องที่จะมีการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ ยืนยันว่าหากทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปลี่ยนใจไม่ถอนฟ้อง ตนก็พร้อมที่จะขึ้นศาลสืบพยานและก็มั่นใจว่าสิ่งที่ตนได้ทำไป ไม่ได้เป็นการใส่ร้ายใส่ความใคร
อีกทั้งผู้สื่อข่าวได้อถามอีกว่าการที่ให้นายอัจฉริยะติดต่อทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ให้นั้น เพราะทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่สามารถติดต่อเองได้ใช่หรือไม่ นายอัจฉริยะ ระบุว่า ช่วงหลังพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ไม่ค่อยรับโทรศัพท์ใคร และตนเองก็ไม่ได้ติดต่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มาเกือบ 2 เดือนแล้วด้วย รวมถึงเรื่องตรงนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ตัดสินใจเอง เพราะเขาก็เป็นผู้ใหญ่ ตนก็ไม่อยากไปก้าวล่วงการตัดสินใจในสิ่งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กำลังเผชิญอยู่
ต่อมา พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังนายอัจฉริยะ ได้ขึ้นไปที่ศาลเพื่อมาตามนัดศาลนัดพิจารณาคดีที่ ฟ้องในคดีข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ระบุว่า ซึ่งก่อนจะนัดไต่สวนมูลฟ้อง ศาลได้นัดไกล่เกลี่ย ก่อนแล้ว ซึ่งวันนัดไกล่เกลี่ย ตนได้ปฏิเสธนัดไกล่เกลี่ยไป แต่ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของศาล ซึ่งถ้ามีอะไรมากระทบสิทธิตน หรือหมิ่นประมาท ตน ก็มีสิทธิที่จะฟ้องร้อง เพื่อหาความยุติธรรมให้ตัวเอง
ส่วนรายละเอียดในคดี การดูหมิ่น และการหมิ่นประมาท ตน ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง เป็นในส่วนของกระบวนการยุติธรรม ส่วนจะพิจารณาอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับศาล วันนี้ยังไม่ถอนฟ้อง เพิ่งจะเป็นการเริ่มไต่สวนของศาล แล้วก็จะมีการพิจารณา ว่าจะถอนฟ้องหรือไม่ ซึ่งไม่ได้ฟ้องแพ่ง แต่เป็นการฟ้องอาญา
และตนยังไม่ได้พูดว่าจะถอนฟ้อง และยืนยันแล้วว่า ถ้าตนได้กลับไปทำงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนก็จะถอนฟ้องทุกคน รวมถึงนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งอยากให้ทุกคน โฟกัส มาวันนี้ ว่า ตนยังไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะฉะนั้นตนก็ยังจะไม่ถอนฟ้องใคร จนกว่าจะได้กลับไปทำงาน ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงจะถอนฟ้องทุกคดี ตน อโหสิกรรมหมด เพราะได้รับปากกับผู้ใหญ่ไว้แล้ว และ ยืนยันไม่มีดีลลับ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews