Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

หนี้พุ่ง GDP โตต่ำ ศก.ไทยไม่เหมือนเดิม

เศรษฐกิจไทย จะกลับมาโต 4-5% ได้หรือไม่ ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงจากทุกภาคส่วน เพราะล่าสุด ธนาคารโลก ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 เหลือโต 2.4% จากที่เคยประมาณการไว้เดิม เมื่อเดือนเม.ย. ที่ 2.8% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการส่งออกและการลงทุนภาครัฐในช่วงต้นปีที่น้อยกว่าคาดการณ์

 

 

 

ขณะที่ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย “ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ”คาดจีดีพีไทยช่วงปี 2566-2571 คาดว่าจะเติบโตได้แค่ราว 3% ซึ่งเป็นระดับศักยภาพของไทยในปัจจุบันที่ลดลงจากในอดีต และยากที่จะกลับไปเติบโตได้สูงถึง 4-5% อย่างเช่นในอดีต 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ช้าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ

 

 

ทั้งนี้ การจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้มากกว่านี้ จะต้องมีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจปรับโครงสร้างแรงงานให้มีประสิทธิภาพ มีการลงทุนมากขึ้น มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัย ซึ่งคงไม่ใช่เพียงแค่การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่เพียงเท่านั้น

 

 

ล่าสุด สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ “ศ.ดร.พรายพล คุ้มทรัพย์” นักวิชาการอิสระถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยและนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนจีดีพี โดย “ศ.ดร.พรายพล” กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่เศรษฐกิจไทยจะกลับไปโตที่ระดับ 4-5%เพราะรัฐบาลชุดปัจจุบันเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นมากว่าโดยไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาวอีกทั้งการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ปัญหาเศรษฐกิจยังไม่ได้รับการแก้ไขเท่าที่ควร

 

 

นอกจากนี้ “ศ.ดร.พรายพล” ยังได้กล่าวถึงภาระหนี้จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วยว่าจะทำให้หนี้ของประเทศเพิ่มขึ้น และหากในอนาคต รัฐมีความจำเป็นต้องกู้เพื่อลงทุน ก็จะทำให้มีความยากมากขึ้น

 

 

ขณะที่ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส มองกรณีที่ ครม.สัญจรเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ คือให้มีการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณปี 2567 ครั้งที่ 2 โดบแผนก่อหนี้ใหม่ปรับเพิ่มสุทธิ 275,870.08 ล้านบาท จากเดิม 754,710 ล้านบาท เป็น 1.03 ล้านล้านบาท

 

โดยการเพิ่มงบประมาณปี 2567 เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ผ่านการทำโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต เติมเงิน 10,000 บาท ซึ่งต้องติดตามว่ารัฐบาลจะมีความสามารถชำระหนี้ ได้มากน้อยเพียงใดในสภาวะดอกเบี้ยสูงที่ระดับ 2.50% จึงทำให้ตลาดคาดว่าหนี้สาธารณะมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดหนี้สาธารณะของไทย ณ สิ้น พ.ค.2567อยู่ที่ 11.65 ล้านล้านบาท ส่วนประมาณการ GDP อยู่ที่ 18.11 ล้านล้านบาทหรือมีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อGDP 64.29%

 

 

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินสมมุติฐานต่างๆ ได้ว่า รัฐบาลสามารถก่อหนี้เพิ่มได้ราว 1.2 ล้านล้านบาท ภายใต้ GDP เท่าเดิมก็ยังอยู่ในกรอบ 70% หนี้สาธารณะต่อ GDP หรือจะก่อหนี้เพิ่มขึ้นได้ถึง 1.8 ล้านล้านบาท หาก GDP เติบโตได้ 5% ในปีนี้

 

 

อย่างไรก็ตาม การก่อหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น แม้จะยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังแต่ยังมีความกังวลในเรื่องการเพิ่มภาระผูกพันให้กับประเทศซึ่งหากเศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตสูงดังที่หลายสำนักเศรษฐกิจหวังไว้ ก็น่าจะทำความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการคลังลดลงได้

 

 

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างใกล้ชิดเพราะตัวเลขจีดีพีที่เกิดขึ้น ย่อมสะท้อนถึงความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ และฝีมือของรัฐบาลในการบริหารประเทศนั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube