นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ร่วมกันจัดกิจกรรมให้สื่อมวลชนหลากหลายสำนักได้เข้าศึกษาดูงานการควบคุมดูแลตามมาตรการการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่มีความหลากทางเพศ ตามโครงการ “สื่อมวลชนสัญจร Press Tour เพื่อศึกษาดูงานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังข้ามเพศ”
ซึ่งกรมราชทัณฑ์เล็งเห็นว่าไม่ว่าผู้ต้องขังจะเป็นเพศใด จากฐานความผิดใด เรามีหน้าที่ดูแลให้ทุกคนได้รับความปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองสิทธิตามข้อกำหนดแมนเดล่า และมาตรฐานสหประชาชาติ นอกจากนี้ การพัฒนาพฤตินิสัยก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะผู้ต้องขังมีมาจากหลายคดี บางรายต้องโทษคดีความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย บางรายต้องโทษคดียาเสพติด ฯลฯ จึงต้องมีการบำบัดฟื้นฟูให้เป็นไปตามหลักวิชาการและทัณฑวิทยา รวมถึงเรื่องการให้การศึกษา และการสร้างอาชีพแก่ผู้ต้องขัง
อย่างไรก็ตาม บทบาทภารกิจของกรมราชทัณฑ์เกี่ยวกับมาตรการการควบคุมดูแลผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศ ปัจจุบันนี้มีอยู่ 2 เรือนจำ คือ เรือนจำกลางคลองเปรม และเรือนจำพิเศษพัทยา
ซึ่งเรือนจำได้ดำเนินการตามมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยยึดถือหลักการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังข้ามเพศโดยไม่เลือกปฏิบัติและจะต้องปฏิบัติบัติต่อผู้ต้องขังเหล่านี้เช่นเดียวกันกับผู้ต้องขังทั่วไป รวมถึงสิทธิการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกันทางกฎหมาย ตลอดจนการพัฒนาพฤตินิสัยที่ผู้ต้องขังจะได้รับทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อาทิ การจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์และความสนใจของผู้ต้องขังข้ามเพศ
ขณะที่ในเรื่องของทรงผม ผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศที่ได้แปลงเพศแล้วก็สามารถไว้ผมยาวในระดับเดียวกับผู้ต้องขังหญิงได้ (ผมบ็อบสั้น) ส่วนถ้ายังไม่มีการแปลงเพศ ก็จำเป็นต้องไว้ผมตามวิถีเพศกำเนิด สำหรับเรื่องชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังข้ามเพศ
ทางเรือนจำกลางคลองเปรมได้ดำเนินการแยกห้องนอนของผู้ต้องขังและแยกห้องน้ำสำหรับชำระล้างต่างหาก เช่น ในกรณีของผู้ต้องขังข้ามเพศ 14 ราย จะมีห้องนอน 2 ห้อง นอนห้องละ 7 ราย สามารถอนุโลมให้อาบน้ำในห้องขังได้ แต่ถ้าอยากใช้ห้องน้ำส่วนตัว ก็ต้องลงมาด้านล่างซึ่งจะมีห้องน้ำเฉพาะที่เป็นของเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้ต้องขังแปลงเพศแล้วสามารถเข้าใช้
ทั้งนี้ หากผู้ต้องขังแปลงเพศเกิดการเจ็บป่วยและต้องเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก็จะมีการแยกห้องผู้ป่วยไม่ให้มีการปะปนกันกับผู้ต้องขังชาย เพราะเราจะต้องคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ได้รับการปฏิบัติที่ดี ไม่เกิดเหตุการณ์ละเมิด หรือก่อให้เกิดความรุนแรงต่อร่างกายและจิตใจ
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้มีการพูดคุยกับผู้ต้องขังข้ามเพศ ส่วนใหญ่ สะท้อนปัญหาเรื่องกองงาน เนื่องจากตนเป็นผู้ต้องขังข้ามเพศทางกรมราชทัณฑ์จึงไม่มีกองงานให้รับผิดชอบ จึงไม่รู้ว่าต้องทำอะไร และสะท้อนถึงปัญหา ของอาคารสถานที่เนื่องจากพวกตนไม่มีกองงานให้ทำประจำเวลาว่างจึงอยู่ได้เพียงตามเต็นท์หรือร่มไม้เพราะว่าอาคารนอนเปิดปิดเป็นเวลา ซึ่งเวลาฝนตกก็ไม่มีที่ให้หลบฝน? เวลาแดดออกก็ไม่มีที่ให้อยู่ จึงฝากสะท้อนปัญหาดังกล่าวไปถึงกรมราชทัณฑ์ให้แก้ไข
ขณะที่นายพรเทพ ตรีอมรสวัสดิ์ นักทัณฑวิทยาชำนาญการ ผู้บังคับการแดน 1 เรือนจำกลางคลองเปรม ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า ในประเด็นที่ไม่มีกองงานให้รับผิดชอบประจำเนื่องจากว่า เกรงว่าผู้ต้องขังข้ามเพศจะไม่ได้รับความปลอดภัยเนื่องจาก กองงานต่างๆจะเป็นพื้นที่ปิด และมีมุมอับ จึงเน้นให้ผู้ต้องขังข้ามเพศอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง เพื่อเป็นการเซฟตัวผู้ต้องขังเอง ซึ่งประเด็นดังกล่าวตนก็ได้มีการชี้แจงให้ผู้ต้องขังทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนปัญหาเรื่องอาคารสถานที่ขณะนี้ได้ทำเรื่องของบประมาณในการทำโดมหลังคาเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการรออนุมัติ ซึ่งเรือนจำไม่ได้นิ่งนอนใจในประเด็นดังกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews