เหมือนจะบังเอิญอย่างยิ่ง ที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กำหนด วันที่ 7 สิงหาคม 2567 ออกนั่งบัลลังก์ เพื่ออ่านคำวินิจฉัยคดีการยุบพรรคก้าวไกล ฐานล้มล้างการปกครอง โดยต่อเนื่องมาจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญห้ามพรรคก้าวไกล ดำเนินนโยบายการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อันเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายการปกครอง ซึ่งในวันที่ 7 สิงหาคม เมื่อ 59 ปีที่แล้ว เป็นอีกหนึ่งวันสัญลักษณ์ที่สำคัญของการต่อสู้ระหว่างประชาชนกับภาครัฐ
7 สิงหาคม 2508 ถูกสถาปนาชื่อเป็น “วันเสียงปืนแตก” เป็นการใช้อาวุธประหัตประหารกัน จากกการแตกแยกทางความคิด เป็นการต่อสู้ของกลุ่มสหายสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เสียงปืนนัดแรกในการยิงต่อสู้เกิดขึ้นที่บ้านนาบัว ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม ก่อนที่จะปะทุลุกลามไปทั่วประเทศ กลุ่มสหายต้องเข้าป่าตั้งกองกำลังเรียกร้องประชาธิปไตย ในยุคสงครามประชาชน ยืดเยื้อมานานนับสิบปี เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อทั้งสองฝ่าย
ในเว็บไซด์ของ ศิลปวัฒนธรรม โดย “ปิยนันท์ จำปีพันธ์” เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมีช่วงหนึ่งระบุว่า ” หลังจากเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐ นับเป็นหมุดหมายในการเริ่ม “สงครามประชาชน” โดยมีการจัดตั้งพลพรรคประชาชนต่อต้านอเมริกาแห่งประเทศไทย ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย” หรือทปท. ใน พ.ศ. 2512 เป็นกองกำลังติดอาวุธที่มีจุดประสงค์เพื่อท้าทายอำนาจรัฐ
สมาชิก พคท. เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการเข้าป่าของนักศึกษา, ปัญญาชน และผู้ที่คับแค้นรัฐบาลเผด็จการ การทยอยเข้าป่าของกลุ่มคนเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของรัฐเองที่เป็นเผด็จการ กดขี่ประชาชนมากโดยเฉพาะตามชนบทในภาคอีสาน และมีการควบคุมกิจการต่าง ๆ ของประชาชน แม้ว่ารัฐบาลทหารดำเนินการปราบปรามคอมมิวนิสต์อย่างเข้มข้น แต่ความกดดันนี้เองกลับกลายเป็นสิ่งที่ผลักดันให้ประชาชนคับแค้นรัฐบาลมากขึ้นและหันไปเข้าร่วมร่วมกับ พคท. เห็นได้จากหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ซึ่งเกิดเหตุการณ์ความอยุติธรรมจากบางฝ่าย ทั้งยังเกิดการรัฐประหารและจัดตั้งรัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียร ซึ่งมีนโยบายขวาจัด หันกลับมาปราบปรามคอมมิวนิสต์ภายในประเทศอย่างหนัก ภายใต้ช่วงเวลาที่ผิดยุคผิดสมัย ทำให้เกิดการไหลเข้าป่าเข้าร่วมกับ พคท. ครั้งใหญ่ ของนิสิต, นักศึกษา และปัญญาชน และหลังจากนั้นก็มีขบวนการประชาชนลุกขึ้นสู้กับรัฐตามความเชื่อของตนเองอีกหลายกลุ่ม
นอกจากนี้ ในช่วงของประเทศปกครองด้วยท๊อปบูทกลุ่มคนหนุ่มสาวมีการจัดตั้งองค์กรต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มเยาวชนปลดแอก” ได้เลือกวันที่ 7 สิงหาคม 2563 เป็นวันที่ยกระดับการชุมนุม และตั้งกลุ่มการเมืองใหม่ในชื่อ ‘คณะประชาชนปลดแอก’ (หรือFree People) เพื่อปลดล็อกคำว่า ‘เยาวชน’ เชิญชวนประชาชนทุกเพศทุกวัยมาร่วมชุมนุมไล่รัฐบาลในขณะนั้น ต่อมา”กลุ่มเยาวชนปลดแอก” ได้ร่วมมือกับแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดตั้งเป็นคณะราษฎร และเปลี่บยเป็นกลุ่มราษฏร ตามลำดับ
ทั้งนี้ แกนนำมวลชนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ถูกดำเนินคดี ต่างกรรมต่างวาระกันไป โดยมีดาวดังมากหน้าหลายตา เช่น ทนายอานนท์ นำภา ,รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล,ไผ่ ดาวดินหรือ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา,ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก, มาย์-ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ,ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ และเพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่เพิ่งโดนศาลอาญาพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดี มาตรา 112 ให้ออกหมายจับจำเลยมารับโทษตามคำพิพากษาภายในอายุความ 10 ปี แต่เจ้าตัวหลบหนีไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่า 7 สิงหา “วันเสียงปืนแตก” จะเป็นวันที่ปิดตำนานค่ายก้าวไกล พรรคแห่งหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ ทำให้ ด้อมส้มต้อง น้ำตาแตก ได้หรือไม่?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
