ในการประชุม ครม.วันนี้ รัฐมนตรีหลายคนแสดงความเห็นถึงกระแสการปรับ ครม. รวมถึงมีการจับตามการตัดสินคดียุบพรรรก้าวไกลในวันพรุ่งนี้ด้วย
ในวันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล หารือกับทูต 18 ประเทศถึงคดียุบพรรค
จนหลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยไม่ ว่า ก่อนอื่นต้องบอกว่าตนไม่ทราบ ว่ามีการคุยกันในเรื่องนี้หรือไม่ เพราะมีการพบกันแต่ไม่ทราบเนื้อหาว่ามีการพูดคุยอะไรกันบ้าง ส่วนตัวคิดว่า ทั้ง 18 ประเทศ ระบบยุติธรรมและระบบบริหารแยกกันชัดเจน ฝ่ายบริหารไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายกับกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว และกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ก็เป็นกลางและเป็นสากลได้รับการยอมรับจากทุกๆฝ่ายอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายมีความกังวลเนื้อหาในหนังสือของกระทรวงการต่างประเทศที่ชี้แจงต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) เมื่อแปลเป็นภาษาไทยมีเนื้อหาที่ค่อนข้างรุนแรงเกี่ยวกับคดียุบพรรคก้าวไกล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องมีการชี้แจงไปยัง UN ส่วนของการแปลก็ต้องขอให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงเองว่าแปลไปอย่างไร แต่จุดยืนของเรา เราไม่ก้าวก่ายระบบตุลาการอยู่แล้ว และเราก็จะไม่ยอมให้ใครมาก้าวก่ายระบบตุลาการของเราด้วย
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์ โดยเฉพาะในวันพรุ่งนี้ ที่จะมีการตัดสินคดีของพรรคก้าวไกล ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนตนไม่ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงและมั่นใจว่า ทุกคนตั้งอยู่บนความสงบและยอมรับคำตัดสินของกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงเดือนส.ค. ที่มีทั้งคดียุบพรรคก้าวไกลและคดีของนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องที่เกี่ยวกับศาล คำพิพากษา เราต้องไม่ให้ความเห็นอะไรเลย เพราะพูดไปเดี๋ยวจะไปก้าวล่วงละเมิดอำนาจของศาล
ส่วนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความเป็นห่วงที่นายพิธาได้เชิญทูต 18 ประเทศ ร่วมจับตาคดียุบพรรค หรือไม่ ถือเป็นสิทธิ์ ถ้ามาได้ เหมือนสมัยก่อนที่มีการเชิญทูต มาที่สถานีตำรวจเพื่อสังเกตการณ์ ตนจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร แต่ก็มีทูตไป ตนว่าดีเสียอีก จะได้เกิดความมั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เป็นไปตามขั้นตอน มีความยุติธรรม
โดยในวันนนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ได้พูดถึงการปรับคณะรัฐมนตรี แต่มีรัฐมนตรีหลายคนแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการทวงเก้าอี้รัฐมนตรีในโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่จำเป็นต้องทวง เพราะเป็นเก้าอี้ในสัดส่วนของพรรคเขาอยู่แล้ว และเรื่องนี้ได้ถามไปยังนายกรัฐมนตรีแล้วยืนยันว่า ยังไม่เห็นจดหมายหรือหนังสือจากพรรครวมไทยสร้างชาติ และในการพูดคุยร่วมกันที่ผ่านมาก็ยังไม่มีการคุยกันในเรื่องนี้ ทุกวันนี้ทุกคนทำแต่งาน ซึ่งเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีบอกไว้
ส่วนที่มีคอลัมนิสต์บางคน ฟันธงว่า หลังเดือนสิงหาคม เข้าสู่เดือนกันยายนจะมีการปรับครม.แน่นอนนั้น นายภูมิธรรม บอกว่า อย่าเพิ่งไปยืนยันเพราะวันนี้ทุกคนยังโฟกัสที่การทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ในขณะที่ พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมีชื่อถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี และไม่รู้ว่ามีชื่อของตนถูกปรับออก ขึ้นอยู่ที่นายกฯ ส่วนตัวไม่ได้รับสัญญาณในเรื่องนี้ ไม่รู้ และไม่เคยได้คุยกับใคร
ด้านนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี ที่มาอีกระลอก ว่า ส่วนตัวยังยิ้มได้อยู่ ซึ่งการปรับ ครม.อาจจะเป็นข่าวดีก็ได้ เราก็ทำงานไป ไม่ได้ตื่นเต้น เมื่อถามว่า กระทรวงกลาโหมจะมีตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ยังไม่ทราบ หากมีก็มาช่วยกันทำงาน เพราะกองทัพมีงานมาก หากมีถือว่าดี และจะเป็นทหารหรือพลเรือนก็ได้
และสำหรับพรรคพลังประชารัฐจะมีการเสนอขอนายกรัฐมนตรีพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส พรมหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า การปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีจะปรับหรือไม่อยู่ที่ท่าน พรรคร่วมรัฐบาลก็คุยกันตลอดเวลา ซึ่งการปรับ ครม.ไม่น่าจะมีการปรับในช่วงนี้ เอาตรงๆเป็นการสร้างกระแส คงจะเรื่องของพรรคที่โควต้ายังขาดอยู่
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐไม่มีการขยับอะไรใช่หรือไม่ หากมีการปรับครม.จริง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในส่วนของพรรค เราไม่มีการขยับอะไรอยู่แล้ว เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ดื้อกับนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็อย่างที่เห็นในวันประชุมสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ชัดเจนเรามีความสามัคคีไม่แตกแยกอะไรกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews