ห้วงนี้ 2 บุคคลที่ผู้คนสนใจมากสุดหนีไม่พ้น “หนุ่มทิมพิธา” และ “บิ๊กโจ๊ก” ที่เหมือนจะมีชะตากรรมใกล้เคียงกัน อย่าง “บิ๊กโจ๊ก” แมวที่อาจไม่มีชีวิตที่ 10 หลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ฟันธงคำสั่งที่ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ปมถูกกล่าวหา พัวพันฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ บิ๊กโจ๊ก ที่ลงทุนเปลี่ยนชื่อเพื่อความเป็นศิริมงคล เกือบถึงทางตันแล้ว เหลือทางออกไม่มากนัก หนึ่งในนั้นคือยื่นศาลปกครองสูงสุด
ต่อเรื่องนี้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต ผบ.ตร. เคยระบุว่าหาก บิ๊กโจ๊กฟ้องศาลปกครองสูงสุด อาจต้องใช้เวลาประมาณ 2-3ปี กว่าจะถึงที่สุด แต่ยังเหลืออายุราชการ ในการกลับมาดำรงตำแหน่งได้ หากคดีถึงที่สุดแล้ว บิ๊กโจ๊กเป็นฝ่ายชนะ ต้องมีผู้รับผิดชอบ ตั้งแต่ผู้ออกคำสั่งอาจถูกฟ้องฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจาก ถือว่า มีเจตนาพิเศษหรือไม่ และหากต้องการให้ตนเป็นพยานให้ ถ้ามีการฟ้องร้องกันในศาลทุจริตประพฤติมิชอบ ตนก็ยินดีเป็นพยานให้แน่นอน
ทั้งนี้ เมื่อไปส่องในโลกโซเชียลทุกแพลตฟอร์ม เวลามีข่าวของ บิ๊กโจ๊ก จะพบว่า ชาวออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีคอมเม้นท์ไปในทิศทางที่เข้าข้าง เห็นด้วย และเชียร์บิ๊กโจ๊ก ในสัดส่วนที่มากกว่าอย่างเห็นชัด ซึ่งก็จะคล้าย ๆ ของกรณีของข่าวสารของค่ายก้าวไกล บนโลกโซเชียล ที่คนส่วนใหญ่ มักจะสนับสนุน และเป็นแรงใจให้กับพรรคการเมืองคนหนุ่มสาว กันอย่างเนื่องแน่น โดยเฉพาะ พิธา อดีตหัวหน้าก้าวไกล และประธานที่ปรึกษาพรรคฯ ที่มีแฟนคลับ ด้อมส้มล้นทะลัก
โดย พิธานั้น ลุ้นระทึกกับศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก้าวไกล จากเหตุล้มล้างการปกครองหรือไม่ แนวโน้มสูงยิ่งว่าก้าวไกลไม่น่ารอด ซึ่งถ้าถูกสั่งยุบพรรค จะมี กรรมการบริหารพรรค10 คนที่จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งพิธา เป็นหนึ่งในนั้นด้วย รวมไปถึง ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าก้าวไกลคนปัจจุบันด้วย โดยความเคลื่อนไหวของพิธา ที่ไปหารือกับทูต 18 ประเทศ ที่สถานทูตเยอรมัน ถึงคดียุบพรรค จนหลายฝ่ายกังวลว่า จะเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยหรือไม่
ในประเด็นของการยุบก้าวไกล นั้น พิธา ลั่น ไม่สามารถก้าวล่วงการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งยังคงมั่นใจในข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย เชื่อว่า พรรคก้าวไกลจะได้รับความยุติธรรม และเชื่อว่า การวินิจฉัยจะมีบรรทัดฐานเป็นไปตามหลักสากล และยังยอมรับว่า คิดแผนสำรองไว้แล้ว ในกรณีที่คำวินิจฉัยไม่เป็นคุณ ส่วนผลวินิจฉัยในวันที่ 7 ส.ค.นี้ หากทำให้ประชาชนมีการเคลื่อนไหว ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถทำได้ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยโดยไร้ความรุนแรง
ล่าสุด พิธา ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอภาคภาษาไทย ช่วงหนึ่งน่าสนใจ เขาระบุว่า “ตอนนี้มีความพยายามที่จะยุบพรรคเรา มีความพยายามที่จะตัดสิทธิ์เรา เราต้องสู้ให้ถึงที่สุด ทำเต็มที่ แต่ถ้ามองย้อนกลับไปแล้ว ก็รู้สึกว่าเราได้ทำในทุกสิ่ง ทุกวิถีทาง” และ ” การเมืองเป็นเกมยาว มันต้องมีทั้งกลยุทธ์ ในขณะเดียวกันก็ความอดทนที่จะรอ…แต่กลยุทธ์มันก็ต้องมีการประนีประนอม แต่ ประนีประนอมกับต้องโกหกกับสิ่งที่ตัวเองเคยสัญญาไว้เป็นการประนีประนอมที่ขายวิญญาณตนเอง”
ก่อนหน้านี้ พิธาให้สัมภาษณ์ในรายการคมชัดลึก ไว้อย่างน่าสนใจตอนหนึ่งว่า “การจะจับหนูตัวเดียว จะเผาทั้งนา เผาแบงค์พันเพื่อหาเหรียญบาทหรือ ตนอยากทำงานการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ มีความฝันทำงานการเมืองนานาชาติ เป็นอาจารย์ ระบบการเมือง มีฝ่ายค้านคอยตรวจสอบ อย่าไปคิดว่า จะเอาบุคคลนั้นบุคคลนี้ แล้วเอาระบบไปแลก แต่ต้องทำให้คนอยู่ในระบบแบบนั้น ทำให้มีการตรวจสอบได้ ให้ประชาชนลงโทษได้ทุกเมื่อ”
อย่างไรก็ตาม ทั้ง พิธา และบิ๊กโจ๊ก ต่างมีชะตาชีวิตที่คล้ายกัน ในส่วนที่เป็นซุปตาร์โลกโซเชียล มีคนรัก คนศรัทธาจำนวนมาก เพราะคนทั้งคู่ เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีความเป็นมิตร ทำตัวติดดิน และเข้าถึงประชาชนได้มาก ทำให้มีแฟนคลับที่คอยติดตามและชื่นชมผลงานตลอด แต่ตามสุภาษิตโบราณที่ว่า”จงทำดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน” ..ทั้งพิธา และบิ๊กโจ๊ก จึงต้องมีเส้นทางชีวิตผกผันเฉกเช่นนี้นั้นเอง!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews