11 สิงหาคม ครบรอบวันเกิดปีที่ 79 ของ ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เจ้าพ่อบ้านป่ารอยต่อ อดีตศูนย์รวมอำนาจรากงอกกว่า 9ปี แต่ยังไม่ละวางจากกลิ่นอำนาจอันหอมหวานเย้ายวน ยังคงปักหลักเป็น หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เคยถูกคุณหนูค่ายเพื่อไทยประกาศ “ร่วมกันปิดสวิตช์ 3 ป. เพื่อทำให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไปด้วยกัน” แต่สุดท้ายพ่ายให้กับดีลพิศดาร หันไปจูบปากลุง ดึงมาช่วยเป็นเสาค้ำยันตั้งรัฐบาลเศรษฐา ที่อยู่กันมาจะครบปีแล้ว
สำหรับความเคลื่อนไหว ปีที่ 79 ของลุงป้อม อาจไม่คึกคักเหมือนช่วงครองอำนาจมากนัก แต่ยังมีเพื่อนเพื่อนเตรียมทหาร รุ่น 6 เซอร์ไพรส์ จัดงานวันเกิดล่วงหน้าให้ ในขณะที่ลูกรักลุงป้อมอย่าง ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เคลื่อนไหวสยบข่าวลือ ความขัดแย้งในพรรค รวมไปถึงจะมีการย้ายพรรค ด้วยการนำรัฐมนตรี แกนนำ และ สส. ของพรรค เข้าอวยพรลุงป้อม ด้านเจ้าตัวฝากสมาชิกทุกคน ยืนหยัดสามัคคี สร้างความเข้มแข็งให้กับพรรค
สำหรับลุงป้อมนั้น มีตำแหน่ง และฉายามากมาย ทั้งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เคยเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากากระทรวงกลาโหม ในรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยเป็น รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เคยเป็อดีตผู้บัญชาการทหารบก และได้ชื่อว่าเป็น “พี่ใหญ่” ของกลุ่มบูรพาพยัคฆ์และกลุ่ม 3 ป.
บิ๊กป้อมนั้น คับทั้งวงการทหาร และวงการการเมือง สมัยรับราชการก็รุ่งสุดขีด ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บังคับบัญชาทหารบก ระหว่างวันที่ 1 เดือนตุลาคม 2547 ถึง 30 กันยายน 2548 ในรัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งบิ๊กป้อมนั้นมีน้อง 2คนที่จัดเป็นเด็กในคาถา นั้นคือ “บิ๊กป๊อก” พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก และ “บิ๊กตู่” พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายรัฐมนตรีและอดีตผู้บัญชาการทหารบก ซึ่ง”พี่น้อง 3 ป.”ลึกซึ้งทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องหน้าที่การงาน
ส่วนในยุทธจักรการเมืองนั้น บิ๊กป้อม ย่างเท้าเข้ามาได้เพราะน้องรัก “บิ๊กตู่” พล.อ ประยุทธ์ ในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. เข้าทำการยึดอำนาจรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ต่อมา “บิ๊กป้อม” ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษา เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และยังเป็นประธานคณะกรรมการอีกกว่า 50 คณะ จนกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ตัวจริงเสียงจริงที่แม้แต่ “บิ๊กตู่” นายกฯในขณะนั้นไม่กล้าแตะต้องแต่อย่างใด
อำนาจบารมีของบิ๊กป้อมในช่วงขุนทหารครองเมืองนั้นใหญ่คับเมืองจริงๆ “สำนักข่าวบีบีซีไทย”ยังเคยรายงานว่า เขาคือ “พี่ใหญ่” หรือ Big Brother ที่ส่งเสริม “น้องๆ” เข้าไปนั่งอยู่ในเกือบทุกองค์กรแห่งอำนาจ จนกลายเป็นที่มาของคำว่า “ไปไหนก็เจอแต่เด็กป้อม” และนักวิชาการดังอย่าง รศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อดีตอาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ เคยบอกว่า”บิ๊กป้อมเป็นคนซับซ้อน… มีความสนใจที่หลากหลาย รู้จักคนเยอะจนน่าแปลกใจ… เป็นคนละเอียดเรื่องใช้คน”
เส้นทางอำนาจที่ผ่านมาของบิ๊กป้อม ไม่ค่อยมีคู่ขัดแย้งนัก มีเพียง “ทักษิณ ชินวัตร” คนเดียวที่กล้าต่อกร ประทะฝีปากกัน ตั้งแต่สัมยที่ ทักษิณ ยังกลับ ประเทศไทยไม่ได้ ซึ่งประโยคหนึ่งของทักษิณ ที่เป็นที่จดจำของคอการเมือง นั้นคือ “ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมาเกาะโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ.เลย” ต่อมาเมื่อกลับไทยแล้วทักษิณ ให้สัมภาษณ์ระบุ คนมีบ้านในป่า สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง จนถูกเชื่อมโยงว่าหมายถึงบิ๊กป้อมใช่หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทักษิณ 75 ปี บิ๊กป้อม 79 ปี แล้ว ความแค้น ความทรงจำใดๆน่าจะเก็บไว้ในใจ ดูได้จากวันก่อนงานสีดำแม่นายกเศรษฐา ยังมีภาพร่วมเฟรม อดีตนายกลงุตู่กับทักษิณและลูกสาวเลย ตอกย้ำมารยาทสังคม และอมตะวาจา”การเมือง “ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร” วลีดังจาก เฮนรี จอห์น เทมเพิล ไวส์เคานต์ พาลเมอร์สตัน ที่ 3 อดีตนายกฯ อังกฤษนั้นเอง!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
