นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อม นายนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และทีมงาน กทม. แถลงข่าว เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำเหนือและน้ำฝนของกรุงเทพมหานคร พร้อมลงเรือตรวจสอบความพร้อมแล้วป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาจากท่าเรือส่วนกลางท่องเที่ยว ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า จนถึงวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ
เวลา ต่อมา ทาง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำทีมงาน กทม. พร้อมสื่อมวลชน ลงเรือ ดูระดับน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเตรียมความพร้อม รับมือสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ทางภาคเหนือมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก
และอาจส่งผลกระทบให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กรุงเทพมหานครได้ติดตามสถานการณ์และประสานข้อมูลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับกรมชลประทาน ศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อยู่เป็นประจำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร
นายนายวิศณุ ทรัพย์สมพล กล่าวว่า สถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา อันได้แก่เพื่อนภูมิมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสัก เปรียบเทียบ ณ วันและเวลาเดียวกัน ( 25 ส.ค 66 กับ 25 ส.ค 67) พบว่าปีนี้ดีกว่าและยังสามารถรองรับน้ำได้เพิ่มทั้งนี้ต้องเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิดจากมวลน้ำที่มาจากน้ำยมซึ่งจะไม่ไหลเข้าเขื่อนหลักและระบาย ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาปัจจุบันมวลน้ำไหลลงมาถึงจังหวัดสุโขทัยและคาดว่าจะมาถึงกรุงเทพมหานครใช้เวลาประมาณ 6 วัน 2 ก.ย.67 โดยอัตราการระบายน้ำที่ต้องเฝ้าระวังก่อนถึงกรุงเทพมหานครคือที่สถานีบางไทร ซึ่งอัตราการระบายน้ำที่ สถานีบางไทร ณ วันที่ 26 ส.ค 67 เฉลี่ยอยู่ที่ 989 ลบ.ม./วินาที โดยอัตราการระบายน้ำที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ที่ 2500 ลบ.ม./วินาที
ต่อมา นายชัชชาติ เปิดเผย หลังตรวจ ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เสร็จ ว่า ทาง กทม. ได้เตรียม พร้อมการบริหารจัดการน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วมต่างๆและตรวจสอบความเข้มแข็ง และจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาคลองบางกอกน้อยและคลองมหาสวัสดิ์ความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร ซึ่งหลังจากปี 2554 เป็นต้นมาได้เสริมแนวขั้นกั้นน้ำถาวรริมเจ้าพระยาสูงขึ้นตลอดในระดับ 2.80-3.50 ม.รทก. และเรียงกระสอบทรายเป็นเขื่อนชั่วคราวในทวินที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร คือแนวฟันหลอ และบริเวณแนวป้องกันที่มีระดับต่ำตามจุดต่างๆ
รวมทั้งตรวจสอบความพร้อมของสถานีน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 96 สถานีและบ่อสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งในช่วงน้ำทะเลขึ้นพร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุดเครื่องสูบน้ำสำรองเรือผลักดันน้ำ วัสดุอุปกรณ์ กระสอบทราย ตลอดจนเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเร่งด่วนเคลื่อนที่และอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมปฏิบัติการและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุน้ำท่วมตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับในพื้นที่ชุมชนนอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 16 ชุมชน 731 ครัวเรือน ในพื้นที่เจ็ดเขตซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากน้ำท่วมได้สั่งการให้สำนัก งานพื้นที่ประกอบด้วย เขตดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ บางคอแหลม ยานนาวานา บางกอกน้อย และเขตคลองสาน ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชุมชนและให้เตรียมขนย้ายสิ่งของให้อยู่ในที่สูงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหากเกิดปัญหาระดับน้ำขึ้นสูงนอกจากนี้ได้สั่งการสำนักงานเขตที่มีพื้นที่อยู่ตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยาสำรวจพื้นที่บ้านเรือนของประชาชนจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีฉุกเฉินต่างๆอย่างทันท่วงที
โดยการรับมือสถานการณ์ฝนของ กทม. ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตลอดคือการลดระดับน้ำรองรับสถานการณ์ฝนสร้างธนาคารน้ำ แก้มลิง เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำโดยล้างทำความสะอาดทำความสะอาดและบำรุงรักษาอุโมงค์ระบายน้ำ ประตูระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ แล้วเสร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ทุก. รวมถึงการเตรียมความพร้อมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ทำให้น้ำท่วมขังหลังฝนตกหนักในปีนี้ลดลงเร็ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
