ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า ดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงินหมื่นให้ประชาชนนโยบายเรือธงของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่พยายามเดินหน้ามาตั้งแต่ยุคอดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสินซึ่งใช้เวลาเกือบ 1 ปีเต็มในการหาช่องทางจนกระทั่งเปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนได้สำเร็จก่อนตัวเองต้องพ้นตำแหน่ง เปลี่ยนเป็น “แพทองธาร ชินวัตร” ขับเคลื่อนต่อและอาจปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นแจกเงินสด
โดยมีกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน เป็นกลุ่มแรก ที่จะได้รับเงินซึ่งอาจเป็นเงินสด ส่วนกลุ่มอื่นๆ ที่เหลือนอกเหนือจากนั้น “ทักษิณ ชินวัตร” กุนซือสำคัญในฐานะพ่อของนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเอางบที่เบิกได้จ่ายต่อให้กับกลุ่มที่ลงทะเบียนแล้วและถ้าระบบเสร็จก็จะเป็นดิจิทัลวอลเล็ต โดยย้ำว่า ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการยิงนก 3 ตัวด้วยกระสุนนัดเดียวดังนั้นจึงเป็นการการันตีว่า นโยบายเรือธงนี้จะเดินหน้าต่ออย่างแน่นอน แม้โฉมหน้าครม.ชุดใหม่ ของรัฐบาลอิ๊งค์ 1จะยังไม่ชัดเจน และห้วงเวลาปีงบประมาณ 2567 เดินมาถึงเดือนสุดท้ายแล้วก็ตาม
นอกจากดิจิทัลวอลเล็ต ยังมีอีกหลายนโยบายสำคัญที่ตลอดเกือบ 1 ปี ของยุค”เศรษฐา”ซึ่งมีการถกเถียงกันมาอย่างหนัก ทั้งในสภากาแฟ ตามหมู่บ้านร้านตลาดหรือแม้กระทั่งในสภาผู้แทนราษฏรอันทรงเกียรติ ทั้งโครงการแลนด์บริดจ์ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่รัฐบาล “ลุงตู่” และสภาให้ความเห็นชอบรายงานศึกษาไปแล้วหรือแม้แต่โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่บางคนเรียกสั้นๆว่า “คาสิโนเสรี” ล้วนถูกจับตาว่ารัฐบาลของ “แพรทองธาร” จะเดินหน้าต่อกับนโยบายเหล่านี้ด้วยหรือไม่
โดย “ทักษิณ” เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับ “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ว่าตนเองมีแนวคิดจะทำตั้งแต่เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนแล้ว แต่ถูกคัดค้านแต่วันนี้ตนไม่ได้คิดและไม่มีคนค้านมีแต่คนเชียร์ ดังนั้น เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่จะประกอบไปด้วยหลายอย่าง ทั้งสวนสนุกของเด็ก คอนเสิร์ตฮอลล์ สนามกีฬาและพื้นที่ส่วนที่เป็นคาสิโนจริงๆ มีไม่ถึง 10% คือสิ่งที่เราขาดไปดังนั้นจะต้องเรียกร้องให้มีการมาลงทุน โดยที่รัฐไม่ต้องลงทุนเองจึงเท่ากับว่า นโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ มีเปอร์เซ็นต์สูง ที่จะเป็นอีก1โครงการที่รัฐบาล”แพทองธาร”จะผลักดันต่อ เพราะพ่อส่งสัญญาณมาแล้ว
ส่วนแลนด์บริจด์นั้น “ทักษิณ” เคยมีแนวคิดที่จะทำไปแล้วเมื่อ 10 กว่าปีก่อน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จดังนั้น จึงน่าสนใจว่าเมื่อลูกสาว ก้าวขึ้นมาบริหารประเทศ นโยบายนี้จะถูกหยิบมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้งในรูปแบบเดิม หรือ จะมีการต่อยอดจากโครงกา ที่ถูกเขียนในยุค”ลุงตู่”และมี สส.ภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกุล” เป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในพื้นที่เวลานี้ในการเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้อาจสรุปได้ว่า 3 นโยบายเรือธง และเมกกะโปรเจ็คช์ ในยุค “เศรษฐา” อาจได้รับการสานต่อในยุคของ”นายกฯอิ๊งค์”แทบทั้งสิ้น ส่วนจะเร็วหรือช้า จะสำเร็จในระยะเวลาอันสั้นหรือต้องรอลุ้นระยะยาว ก็น่าจะขึ้นอยู่กับเสถียรภาพและอายุของรัฐบาลเท่านั้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews