ก่อนหน้านี้ “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” อดีตโฆษกเพื่อไทย ออกโรงขึงขัง ตรวจสอบการลาประชุมของ “ลุงป้อม -พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐยื่นหลักฐานต่อประธานสภา ยื่น ปปช.ให้เอาผิดฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ถอดถอนจากการเป็นส.ส. พร้อมไล่ส่ง ไม่มาสภาก็ลาออกไป เพราะเสียดายเงินภาษีประชาชน ได้ใจกองเชียร์พอสมควร
จน “บิ๊กป้อม” ต้องส่ง “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ออกมาชี้แจง พร้อมโชว์หลักฐาน ประกาศไม่รับเงินเดือนพร้อมคืนเงินที่ได้รับมาทั้งหมด ตั้งแต่รับตำแหน่ง แม้การประกาศไม่รับเงินเดือน และการคืนเงินจะเป็นคนละเรื่องเดียวกัน กับการลาประชุม ไม่สามารถจะชดเชยการฝ่าฝืนข้อบังคับ หรือมาตรฐานจริยธรรมที่ส่งผลกระทบกับภาพใหญ่ของสภาได้
แต่ดราม่าของ “ลุงป้อม” ก็กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย เมื่อเปรียบเทียบกับ “พล.อ.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี” สส.บัญชีรายชื่อเพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาลที่ประกาศกร้าวจะทวงคืนนิติรัฐ นิติธรรม ฟื้นคืนความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมไทย เพราะ อดีตแม่ทัพภาค 4 ผู้ต้องหาคดีตากใบหายตัวไปอย่างลึกลับ หลังศาลนราธิวาสมีหนังสือขอตัวไปให้การ เมื่อเดือนก่อน และกลายเป็นหมายจับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แกนนำพรรคหลายคน ตอบเป็นเสียงเดียวกัน “ไม่รู้อยู่ไหน”
ก่อนมาโป๊ะแตกสุดๆมีการเปิดเผยหลักฐานว่า “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” รองประธานสภาผู้แทนราษฏร จากพรรคเพื่อไทย เป็นคนลงนามอนุญาติให้ “พล.อ.พิศาล” ลาประชุมไปรักษาตัวต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 26 สค. ถึง 30 ตค.นี้ โดยลงนาม ในวันที่ 28 ส.ค.
เมื่อปรากฏหลักฐานออกมาแบบนี้ และปกราฏว่าสอดรับกับห้วงเวลาสิ้นสุดอายุความคดีตากใบ 25 ต.ค.นี้ดังนั้น การที่ “พล.อ.พิศาล” สส.บัญชีรายชื่อเพื่อไทย หายตัวไปจนถึงวันที่ 30 ต.ค.นี้ และจะกลับมาอีกครั้ง หลังคดีตากใบหมดอายุความ ย่อมตีความเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากลาประชุมสภา เพื่อหนีคดี ซึ่งหากมีพฤติการณ์แบบนี้จริง จะเข้าข่ายการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ กระทบต่อความน่าเชื่อถือของสภา กระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรครัฐบาลหรือไม่ ต้องถามใจ “พร้อมพงศ์” กล้ายื่นตรวจสอบ และขอให้ถอดถอน “พล.อ.พิศาล”
รวมถึงคนที่รู้เห็นเป็นใจ ในข้อหาเดียวกับ ที่ยื่นเอาผิด “พล.อ.ประวิตร”ต่อสภา และองค์กรอิสระอื่นๆ หรือไม่ พรรคเพื่อไทย และ “พร้อมพงศ์” ควรต้องทำให้เป็นบรรทัดฐาน “มาตรฐานจริยธรรม”ส.ส.ต้องเหมือนกัน ไม่ควรแบ่งแยกว่าเป็นพรรคไหน เมื่อเดินหน้าเอาผิดพล.อ.ประวิตร แล้ว ต้องเอาผิดคนในพรรคเดียวกันด้วยเพราะการหายตัวของ ส.ส.ออกนอกประเทศหลังศาลจังหวัดนราธิวาสรับฟ้องคดีตากใบ 3 วัน ไม่ยอมไปศาล ยื้อเวลาเพื่อให้คดีหมดอายุความ ที่มารู้ตอนหลังว่าลาประชุมไปรักษาตัว
แต่แกนนำพรรคระดับรองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม กลับพูดกับสื่อหลายครั้งว่าไม่รู้ไปไหนนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่า กรณีนี้ เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจนิยธรรมอย่างร้ายแรงแล้วนั่นเอง และเชื่อว่า ประเด็นนี้จะถูกพรรคฝ่ายค้าน ทั้งพลังประชารัฐ และ ประชาชน รวมถึงเป็นธรรม ต้องหยิบยกมาเป็นเรื่องสำคัญในการอภิปราย หรือโจมตีรัฐบาล ว่าปล่อยปละละเลย เพิกเฉยต่อกระบวนการยุติธรรม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews