Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“ทนายตั้ม” แจ้งความ ผู้บริหาร ดิไอคอนกรุ๊ป

 

 

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรมพร้อมผู้ช่วย เดินหน้าเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้บริหารของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป หลังมีผู้เสียหายหลายรายร้องทุกข์

 

 

ทนายตั้ม เปิดเผยว่า ตนมาแจ้งความดำเนินคดีกับทางบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป รวมไปถึงผู้บริหารทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น บอสพอล , บอสกันต์ , บอสปีเตอร์ , บอสหมอเอก , บอสมีน , บอสแซม ในเรื่องของ พรก.กู้ยืมเงินอันเป็นฉ้อโกงประชาชนหรือแชร์ลูกโซ่ เรื่องของฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ และก็จะเข้าสู่มูลฐานร่วมกันฟอกเงินด้วย

 

 

ทนายตั้ม กล่าวต่อว่า โดยวันนี้ตนมีหลักฐานจากผู้เสียหายที่มาร้องเรียนกับตนว่าได้รับความเสียหายจากบริษัทดังกล่าว และทราบว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้มีการให้สินค้าจริง แต่เป็นการหลอกให้ลงทุนให้สมัครครอสเรียน ขยับเลเวลขึ้นเป็นขั้นบันไดโดยเริ่มจ่าย 2,500 25,000 250,000 บาท จากนั้นก็ให้หาลูกทีม ตนจึงมองแล้วว่าไม่ได้มีการจะขายสินค้าจริง แต่เป็นลักษณะการแชร์ลูกโซ่ โดยใครที่เป็นระดับดีลเลอร์ที่จ่าย 250,000 บาท จะได้รับสิทธิพิเศษนัดทานข้าวกับระดับบอส โดยจะเน้นให้ความเป็นกันเองเพื่อให้การลงทุน แต่เวลาผ่านมา 1 ปี ผู้เสียหายกลับไม่ได้รับสินค้า เมื่อทวงถามในบางรายก็ได้สินค้าที่เกือบหมดอายุมา และเมื่อวานนี้ที่ทางบริษัทออกมาโต้ว่าดาราทั้งหลายไม่ได้เป็นผู้บริหารเป็นเพียงผู้ช่วยการตลาด การกระทำดังกล่าวยิ่งชัดว่าที่ผ่านมาเป็นการหลอกลวงประชาชน เพราะตอนแรกอ้างว่าเป็นผู้บริหารทำให้ประชาชนหลายคนหลงเชื่อและตัดสินใจเข้าร่วมลงทุน จนทำให้ผู้เสียหายบางรายคิดจะฆ่าตัว

 

 

และล่าสุด มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้จำนวน 161 คนมูลค่าความเสียหายกว่า 62 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเกิน 200 คนแน่นอนโดยสามารถเข้ามาแจ้งความได้ที่กองบังคับการปราบปรามได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่หยุดเสาร์-อาทิตย์ รวมถึงตำรวจก็ทำงานร่วมกันตลอดทั้ง บก.ปคบ สคบ. Dsi และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจากกระทรวงการคลัง และ ปปง.ในการทำคดีดังกล่าวโดยเฉพาะ

 

 

 

ต่อมาเวลา 13.30 น. พันตำรวจเอก อุเทน นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และ เปิดปฏิบัติการร่วมกันเข้าตรวจค้น โกดังของ the icon group ซึ่งการตรวจค้น เป็นอำนาจของเจ้าพนักงาน สคบ. เพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัท ที่มีเพียง 15 รายการ แต่กลับพบว่ามีรายได้ของบริษัท บางปีได้รายได้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่ง จะเป็นบัญชีตั้งแต่กลุ่มลูกข่ายดาวน์ไลน์ ดารานักแสดง และผู้บริหาร ไปตรวจสอบ ว่ามีความเชื่อมโยงอย่างไรและเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่

 

 

ตอนนี้ตำรวจและหน่วยงานเกี่ยวข้องทำงานกันตลอด นับเป็นรายชั่วโมง เพื่อรวบรวมหลักฐาน และยืนยันภายใน 48 ชั่วโมงจะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน เมื่อถามต้องออกหมายเรียกก่อนหรือไม่ พันตำรวจเอก อุเทน ระบุความผิดมีโทษเกิน 3 ปีสามารถออกหมายจับได้เลยทันทีและหมายจับที่ออกอาจจะเป็นกลุ่มผู้บริหารหรือดาราที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดย เข้าองค์ประกอบการกระทำความผิดตาม พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดในมูลฐานฟอกเงิน และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ส่วนทรัพย์สินของ กลุ่ม the icon group ส่วนใหญเป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่ เช่นอสังหาริมทรัพย์ ไม่สามารถยักย้าย หรือขายต่อได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ตำรวจสามารถยึดอายัดมา เฉลี่ยทรัพย์คืนให้ผู้เสียหายได้ ซึ่งขั้นตอนการเฉลี่ยทรัพย์คืนให้ผู้เสียหายต้องดูขั้นตอนของ ปปง.

 


 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube