ได้ใจคนกีฬาอยู่ไม่น้อย สำหรับรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” ที่มีนโยบายในการผลักดันซอฟต์ พาวเวอร์ กีฬาไทย สู่การสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ รวมทั้งการดึงบิ๊กอีเว้นท์กีฬาชั้นนำระดับโลก เข้ามาจัดการแข่งขันที่ประเทศไทย โดยมีเป้าหมายใหญ่เพื่อกู้ภาพลักษณ์ให้กับประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้ถูกยกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ตามที่สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้
ขณะที่การปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาเป็น “นายสรวงศ์ เทียนทอง” นั้นก็ถูกอกถูกใจคนในแวดวงกีฬาด้วยเช่นกัน นั่นเพราะรัฐมนตรีฯสรวงศ์ ได้ประกาศชัดถึงนโยบายของกระทรวง ในด้านกีฬาเรื่องแรกคือ การเรียกความเชื่อมั่นให้กับประเทศโดยเร็วที่สุด หลังจากไทยถูกยกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 และหนึ่งในอีเว้นท์ที่รัฐมนตรีฯสรวงศ์เน้นย้ำก็คือ การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ในปี 2568 ของไทย
โดย “นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์” รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และรองประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่ามีความเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐมนตรีฯสรวงศ์ เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย “ดร.ก้องศักด ยอดมณี” ได้ถ่ายทอดให้ฟังว่า รัฐมนตรีฯสรวงศ์มีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมากที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพซีเกมส์
“เท่าที่ได้รับทราบจากทางการกีฬาแห่งประเทศไทย แล้วก็ท่านผู้ว่าการกีฬาก็ได้มาชี้แจงให้ฟังว่า ท่านรัฐมนตรีท่านกระตือรือร้นมาก ในการที่ประเทศไทย
จะมีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 ก็ทำให้พวกเราได้เบาใจลงเยอะเลยครับแล้วก็สบายใจขึ้นเยอะผมก็ได้ถ่ายทอดความรู้สึกนี้ให้กับทางเพื่อนๆที่อยู่ในภูมิภาคในกลุ่มของมนตรีซีเกมส์ในแต่ละชาติในสมาคมในสมาพันธ์แล้วก็เค้าก็จะเดินทางมาเมืองไทยวันที่ 24 วันที่ 25 จะมีการประชุมมนตรีซีเกมส์ที่ประเทศไทยเป็นการประชุมก่อนการแข่งขันหนึ่งปีแล้วก็จะมีการอนุมัติเห็นชอบกับชนิดกีฬาที่จะจัดการแข่งขันในครั้งนี้”
“นายชัยภักดิ์” กล่าวอีกว่า ตอนนี้มีความพยายามจากประเทศอินโดนีเซียในการที่จะเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ หากประเทศไทยไม่พร้อม แต่เมื่อรัฐมนตรีฯสรวงศ์มีความกระตือรือร้น ในการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ก็ทำให้เบาใจในเรื่องนี้ได้
“ผมมีความมั่นใจ ผมยังไม่ได้เจอกับท่านเป็นการส่วนตัวแต่ว่าคนที่ได้มีโอกาสได้ไปเรียนพบท่าน แล้วก็ท่านพิมลก็ได้มาเล่าให้ฟังว่า ทุกอย่างก็น่าไปได้ด้วยดี
ผมก็สบายใจแล้วก็บอกกับเพื่อนๆ ที่เค้าเป็นห่วง คือมันมีความพยายามของประเทศอินโดนีเซียเค้าก็อยากจะเป็นเจ้าภาพ เค้าก็บอกว่าถ้าเราไม่ไหว เค้าพร้อมจะรับแทนประเทศไทย ผมก็บอกว่ามันไม่ได้หรอก ถ้าอีกครั้งเราจะคอย ต้องค่อยอีก 10 ปี”
“นายชัยภักดิ์” กล่าวย้ำว่า วันนี้ประเทศไทยจะต้องจัดซีเกมส์ให้ดีที่สุดเพราะถือว่าเป็นงานที่จะกู้ชื่อเสียงให้กับประเทศไทย หลังจากถูกยกเลิกจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ซึ่งส่วนตัวพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งรัฐมนตรีฯสรวงศ์ อย่างเต็มที่
“เราก็พร้อมจะทำงาน เราก็อยากจะทำให้ซีเกมส์เป็นซีเกมส์ที่ดีที่สุด แล้วก็การกู้หน้าที่เราโดนโอซีเอยกเลิกการเป็นเจ้าภาพเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าอายที่สุดเลยที่ถูกสภาโอลิมปิกแห่งเอเชียยกเลิก มันเหมือนกับเครดิตเราไม่เหลือเลย ครั้งนี้เราก็จะเป็นการกู้หน้าต้องทำซีเกมส์ให้มันดีที่สุด”
และสำหรับนักกีฬาซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการลงแข่งขันซีเกมส์ ทาง “นายชัยภักดิ์” กล่าวว่า จะต้องแสดงศักยภาพออกมาให้เต็มที่ เพราะซีเกมส์ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง จะต้องรอไปอีก 18 ปี
“เราเป็นเจ้าภาพ แล้วก็นี่เป็นครั้งหนึ่งในรอบ 10 กว่าปี ที่มันกลับมาเวียนกลับมาที่ประเทศไทยแล้วถ้าหมดครั้งนี้แล้วก็คงจะยากแล้ว ก็ต้องคอยไปอีกทั้งหมดมัน 11 ชาติ ก็ประมาณอย่างเร็วสุดก็ประมาณ 18 ปีถึงจะได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ก็อยากจะให้เราทำซีเกมส์ครั้งนี้ เราให้นักกีฬาได้มีเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดีที่สุดได้มีการแสดง ศกยภาพของเราอย่างเต็มที่ให้สมกับที่เราเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการขับเคลื่อนนโยบายด้านการกีฬาของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “นายสรวงศ์ เทียนทอง” อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นเจ้าภาพจัดซีเกมส์และการดึงบิ๊กอีเว้นท์กีฬาระดับโลกเข้ามาจัดที่ประเทศไทยเพราะนี่คือหน้าตาและชื่อเสียงที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
