Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ทองพุ่ง หนีสงคราม

ราคาทองพุ่งแรง ยืนเหนือ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยปิดตลาดล่าสุด 18 ตุลาคม 2567 แตะ 2,730 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่ราคาทองไทยทะลุจุดสูงสุดเดิมอีกครั้ง

 

 

 

โดยทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 42,450 บาท ขายออก 42,550 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 41,690 บาท ขายออก 43,050 บาท

 

 

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับนายกสมาคมค้าทองคำ “นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” ถึงแนวโน้มราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot หลังจากที่ราคาทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง โดย “นายจิตติ” กล่าวว่า ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่รุนแรง ส่งผลให้ราคาทองปรับตัวสูงขึ้น

 

 

นอกจากนี้ในเดือนหน้าพฤศจิกายนต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ที่มีการพิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทอง อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าให้จับตาแนวต้านที่ 2,745 เหรียญฯต่อออนซ์ ถ้าผ่านไปได้ ราคาทองก็จะปรับขึ่นต่ออีก

 

 

ขณะที่ น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) กล่าวว่า ความร้อนแรงของทองคำมาจากปัจจัยบวก 4 ด้าน ดังนี้

 

 

1.ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลได้มีการยืนยันการเสียชีวิตของ “ยาห์ยา ซินวาร์” ผู้นำกลุ่มฮามาส จากที่ก่อนหน้าได้สังหาร “มุสตาฟา ฮาริรี” ผู้บัญชาการของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน สถานการณ์ดังกล่าว จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า ฮามาส-ฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน จะมีการตอบโต้กลับหรือไม่

 

 

2.ธนาคารกลางทั่วโลกมีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีหน้า แสดงให้เห็นว่าทองคำจะมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทองคำไม่ได้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย จึงไม่ได้รับผลกระทบต่อประเด็นดังกล่าว

 

 

3.กองทุน ETF ทองคำกลับมาเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยในเดือน ก.ย. กองทุน ETF ทองคำ มีเงินทุนไหลเข้ามา 1,400 ล้านดอลลาร์ หรือ คิดเป็นการซื้อสุทธิ 18.4 ตัน ทำให้การถือครองสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,200 ตัน

 

 

4.ความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐ กระแสการกลับมาของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่อาจคว้าชัยการเลือกตั้งสหรัฐฯ ได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก จึงพักเงินไว้ในทองคำบางส่วนเพื่อเป็นหลุมหลบภัย แต่จะต้องประเมินอีกครั้ง ในนโยบายที่เกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง เนื่องจากดัชนีดอลลาร์แข็งค่าด้วยเช่นกันประเด็นดังกล่าวจึงทำให้ทองคำผันผวนมากขึ้น

 

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วายแอลจี กล่าวอีกวา สำหรับการทำระดับสูงสุดใหม่รอบนี้ เป็นการบ่งชี้ถึงแรงซื้อเก็งกำไรที่มีเข้ามาเพิ่มขึ้น จนราคาดีดตัวขึ้นแรง วายแอลจี จึงมีคำแนะนำว่า ในระยะนี้ให้เน้นการลงทุนระยะสั้น โดยยังเสี่ยงเปิดสถานะซื้อ ตามเทรนด์หลัก เมื่อราคาปรับตัวลงมาแล้วสามารถยืนเหนือแนวรับ 2,685-2,666 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

 

 

โดยเมื่อราคาปรับตัวขึ้น ให้ทยอยปิดทำกำไรที่โซนแนวต้าน 2,735-2,750 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุน หากราคาหลุดแนวรับ 2,666 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่ด้านทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ แนะนำแนวรับที่ 42,100-41,800 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านที่ 42,850-43,100 บาทต่อบาททองคำ

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube