วันนี้นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีวางพวงมาลา เนื่องในวันปิยมหาราช โดยปฏิเสธตอบคำถามการออก พรก.ต่ออายุความคดีตากใบที่จะหมดอายุในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ขณะเดียวกันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โยนให้ไปถามด้านความมั่นคงในการต่ออายุดังกล่าว ยืนยัน รัฐบาลไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร และหวังว่าจะได้ตัวผู้ต้องหาที่หนีคดีโดยเร็ว
โดยวันนี้ เวลา 08.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี วางพวงมาลาในนามนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ณ พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระลานพระราชวังดุสิต (ลานพระบรมรูปทรงม้า) เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในพระราชกรณียกิจ ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงปฏิบัติอันทรงคุณูปการต่อประเทศ เพื่อประโยชน์ของพสกนิกร
ขณะเดียวกัน ยังมีหน่วยงาน องค์กร สถานศึกษา พรรคการเมือง มูลนิธิและสมาคมต่าง ๆ วางพวงมาลา พร้อมกราบถวายบังคม เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยเช่นกัน จากนั้น นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณีการออกพระราชกำหนดต่ออายุความคดีตากใบ หลังคดีความจะหมดอายุในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 2 วัน ก่อนจะขึ้นรถเดินทางกลับทันที
ด้านพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการออก พ.ร.ก.ต่ออายุความคดีตากใบ โดยขอให้ไปถามรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านความมั่นคง โดยปกติการจะออกพ.ร.ก. จะมีกระบวนการการออกกฎหมาย เรื่องใดเรื่องหนึ่งที่มีความจำเป็นรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า จะออก เพื่อเฉพาะกลุ่ม เฉพาะเรื่องที่ไม่ใช่เป็นการออกทั่วไป จะต้องมีการศึกษาว่าทำได้หรือไม่ได้
ส่วนการติดตามผู้ต้องหาในคดีนี้ซึ่งบางคนหลบหนีออกนอกประเทศและเมื่อวานนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะมีปาฏิหาริย์หรือไม่นั้น เท่าที่ทราบทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่ การทำงานลักษณะนี้ ถ้าเรามีความพยายาม บางครั้งมันอาจจะประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับการติดต่อ แต่รับทราบจากผู้ที่ไปสืบสวนหลายคน และก็ไม่ได้หมดหวัง เพราะยังมีเวลา จึงต้องทำงานให้เต็มที่
พร้อมมองว่า ผู้กระทำความผิด เป็นธรรมดา ถ้าเขาต่อสู้คดี ก็จะใช้เวลา 10 – 20 ปี ถ้าเขาเห็นว่ามีช่องทางเรื่องอายุความ เขาก็ต้องหลบไป แต่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ที่ต้องช่วยกันจับกุมให้ได้
นอกจากนี้ พันตำรวจเอกทวี ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามคืนความเป็นธรรมให้ผู้เสียหายในคดีตากใบและรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการช่วยเหลือใคร และไม่มีอคติที่จะช่วยเหลือใคร และหนำซ้ำอยากให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเราคิดเสมอว่า เราใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเป้าหมายสุดท้าย ทุกอย่างเมื่อความจริงปรากฏ ความชั่วร้ายก็จะหายไป อีกทั้งยังชื่นชมกลุ่มเอ็นจีโอและทุกภาคส่วน หากจะยื่นร้องต่อศาลระหว่างประเทศในคดีนี้ เพราะความยุติธรรมเป็นหน้าที่ของทุกคน ที่จะมีส่วนร่วม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews