ครบรอบ 1ปี “แป้ง นาโหนด” หรือ “นักโทษชายเชาวลิต ทองด้วง”ใช้คีมตัดเหล็กตัดโซ่ตรวนและหลบหนีไปจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อวัน 22 ตุลาคม 2566
กลายเป็นคดีที่โด่งดังสูสีกับคดีกำนันนก ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์กระบวนการยุติธรรมไทยอีกครั้ง และถ้ายังจำกันได้ช่วงที่ “แป้ง นาโหนด” หลบหนีแล้วอัดคลิปจวกการทำงานของเจ้าหน้าที่ นั้นผลสำรวจสำนักโพลดังพบว่าคนส่วนใหญ่เรียกร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำร้องขอของ “แป้ง นาโหนด” สำหรับเส้นทางของ “แป้ง นาโหนด” หลังหลบหนี นั้น เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2566 จนถึงต้นเดือน พฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกดดันไล่ล่า-ค้นบ้าน-ออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพาหลบหนีหลายราย
รวมทั้งจับกุมตัวคนสนิท “เสี่ยแป้ง” พร้อมตั้งค่าหัว จาก100,000 บาท เพิ่มเป็น 1,000,000 บาทต่อมา วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 จนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 มีการปะทะเดือดบนเขาบรรทัดหลายครั้ง แต่สุดท้าย “เสี่ยแป้ง” ยังหนีไปได้ ต่อมาวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ก็ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ “เสี่ยแป้ง” ผ่านผู้สื่อข่าวในพื้นที่รายหนึ่ง โดยเนื้อหาในคลิปมีการชี้แจงถึงเหตุผลที่หลบหนี อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และยังบอกว่าเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ประกันตัวในคดี ก่อนจะแฉคนที่ร่วมขบวนการในคดี
พร้อมยื่นเงื่อนไขว่าหากมีการดำเนินคดีกับคนที่ร่วมขบวนการในครั้งนั้นถึงจะยอมมอบตัว หลังจากนั้น “เสี่ยแป้ง” ได้ส่งหนังสือขอความเป็นธรรมถึงนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานต่างๆ และเงียบหายไปอีกครั้ง จากนั้นต้นเดือน ธันวาคม 2566 มีข่าวว่า “เสี่ยแป้ง” ขึ้นเรือหลบหนีออกจากประเทศไทยแล้วไปยังเกาะลังกาวี รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซียกระทั่งวันที่ 22 ธันวาคม 2566
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขณะนั้น ยันว่า “เสี่ยแป้ง” หลบหนีไปยังประเทศมาเลเซียแล้ว ในระหว่างที่ “เสี่ยแป้ง” หลบหนีออกนอกประเทศ ศาลจังหวัดพัทลุง มีคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต “เสี่ยแป้ง” กับพวกรวม 5 คน ในคดีร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเมื่อปี 2562 อีกคดีหนึ่ง
อีก 5 เดือนต่อมา วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีขณะนั้น โพสต์ X ระบุว่า “ได้รับรายงานจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า “แป้ง” ถูกจับกุมตัวแล้ว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานความร่วมมือกับทางการอินโดนีเซีย”ปิดฉากแหกคุกของ “เสี่ยงแป้ง นาโหนด”ที่หนีไปรวมกว่า 222 วัน ทั้งนี้ พบว่า”แป้ง”ก่อคดีมานับ 10 เช่น คดีฆ่าผู้อื่น ฆ่าตำรวจ คดีอาวุธปืน คดีพยายามฆ่า ฯลฯ จากคดีของ”แป้ง นาโหนด”
พบว่าเขาไม่ใช่นักโทษธรรมดาแต่เป็นนักโทษ ผู้มีอิทธิพล มีพรรคพวก มีเครือข่าย ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนการหลบซ่อนตัวเป็นอย่างดี และยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในสังคมไทย ตั้งแต่เรื่องความเหลื่อมล้ำทางอำนาจ ไปจนถึงความบกพร่องในกระบวนการยุติธรรม กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานรัฐและความปลอดภัยในสังคมโดยรวม ต้องปฏิรูปทั้งระบบ และการอุดช่องโหว่ที่เอื้อต่อการทุจริตอีกด้วย สำหรับอีกคดีดังคือคดีตากใบที่จะครบ 20ปี ในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 นี้
ที่อุบัติขึ้นในสมัยรัฐบาลชินวัตรผู้พ่อ นามทักษิณ และมาหมดอายุความในสมัยรัฐบาลชินวัตรคนเป็นลูก คือ แพรทองธาร ที่ล่าสุดปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงข้อเสนอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดหรือ พ.ร.ก.ต่ออายุความคดีตากใบ ที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า “ขอไปก่อนนะคะ” ขณะที่หลายๆ สื่อระบุว่า” 12 จำเลยคดีตากใบ ใช้เส้นทางธรรมชาติเผ่นหนีออกนอกประเทศแล้ว อย่างไรก็ตามทั้งคดี “แป้ง นาโหนด” และคดี ตากใบ ทำให้ถูกตั้งคำถามจากสังคมมากมาย
โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูป”กระบวนการยุติธรรม” ทั้งระบบว่าที่ผ่านมามีช่องโหว่ตรงไหน อะไรที่หละหลวม และที่สำคัญทำอย่างไรจะไม่เกิดลักษณะแบบนี้ขึ้นมาอีก ยิ่งเฉพาะคดีตากใบ มีความสูญเสียมากมายหลายชีวิต แต่ไม่มีใครต้องเข้าไปชดใช้ในคุกเลย ความอัปยศอดสูเยี่ยงนี้ คนมีอำนาจรัฐปล่อยให้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
