ถูกอกถูกใจร้องว้าวกันเลยทีเดียว สำหรับราคาทองคำที่พุ่งขึ้นทำสถิติใหม่อีกครั้งในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาทองในประเทศซึ่งยึดโยงกับ Gold Spot เฉพาะแค่วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2567 เพียงแค่วันเดียว ราคาทองปรับขึ้น 700 บาทต่อบาททองคำ
หรือแม้แต่วันพุธที่ 23 ตุลาคม ก็ปรับขึ้นอีก 550 บาทต่อบาททองคำ และโดยล่าสุด ณ วันที่ 26 ตุลาคม ราคาทองขึ้นอีกบาทละ 150 บาท
ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 43,600 บาท ขายออก 43,700 บาท
ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 42,811 บาท 84 สต. ขายออก 44,200 บาท
ทั้งนี้ ราคาทองในประเทศตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน ปรับขึ้นมาแล้ว 10,050 บาท
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ นายกสมาคมค้าทองคำ “นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” ถึงความร้อนแรงของราคาทองที่เกิดขึ้น โดย “นายจิตติ” กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ราคาทองปรับขึ้นมาเยอะมาก สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเดือนตุลาคม เพียงแค่เดือนเดียว ราคาทองปรับขึ้นมาแล้ว 3,100 บาทต่อบาททองคำ ดังนั้นในภาพรวมจากนี้ไป ราคาทองจะมีความผันผวน และอาจจะมีการปรับฐานของราคาบ้าง แต่ก็เชื่อว่าราคาทองจะปรับขึ้นต่ออีก
“นายกสมาคมค้าทองคำ” กล่าวอีกว่า ปีนี้ 2567 ราคาทองมีโอกาสที่จะไต่ระดับขึ้นไปแตะ 47,000 บาทต่อบาททองคำได้ โดยจะต้องจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา วันที่ 5 พฤศจิกายน รวมทั้งการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด และที่สำคัญต้องติดตามสงครามในตะวันออกกลาง แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าราคาทองจะทำนิวไฮอีก
ขณะที่ นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด คาดว่า ราคาทองคำตลาดโลกและราคาทองไทยในสัปดาห์หน้ายังคงอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาขึ้น โดยขึ้นอยู่กับผลการประชุมของกลุ่มประเทศ BRICS (บริกส์) ว่าจะมีทิศทางที่ชัดเจนอย่างไร เนื่องจากมีการหารือในกลุ่มประเทศ BRICS เกี่ยวกับการเปิดตัวสกุลเงินที่ใช้ทองคำเป็นหลักประกัน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นจากการที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯอาจไม่เป็นสกุลเงินสำรองหลักอีกต่อไป รวมถึงสนับสนุนให้แต่ละประเทศสนับสนุนในการสำรองทองคำมากขึ้น
นอกจากนี้อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนราคาทองคำ คือ การปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในวันที่ 6-7 พ.ย. อย่างไรก็ดี ในสัปดาห์หน้า MTS GOLD แม่ทองสุก คาดว่า ราคาทองคำจะอยู่ในช่วงของการปรับฐาน ก่อนจะปรับตัวขึ้นไปใกล้ระดับ 2,800 เหรียญในช่วงปลายปี
และในสัปดาห์หน้าราคาทองคำตลาดโลกจะมีแนวรับหลักที่ระดับ 2,700 เหรียญ และแนวรับถัดไปที่ระดับ 2,690 เหรียญ และมีแนวต้านที่ระดับ 2,760 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยคาดว่าจะมีแนวรับที่ระดับ 43,200 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านที่ระดับ 44,000 บาทต่อบาททองคำ
โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
1. ค่าเงินบาท
2. ค่าเงินดอลลาร์
3. สงครามในตะวันออกกลาง
4. ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด เพราะยิ่งราคาทองปรับตัวสูงขึ้นมากเท่าไร ความมั่งคั่งก็จะทวีสูงขึ้นตามลำดับนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews