ยังมีความไม่แน่นอนสูงกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ว่า ใครจะเป็นผู้กำชัยระหว่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” แห่งพรรครีพับลิกัน และ “คามาลา แฮร์ริส” จากพรรคเดโมแครต
แต่ล่าสุด ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุว่า ทั่วโลกต่างจับตามองการเลือกตั้งสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดขณะที่ POLL สำรวจล่าสุดของ BLOOMBLERG เผย “โดนัลด์ ทรัมป์” มีคะแนนความนิยมแซงหน้า “คามาลา แฮร์ริส” แล้ว นับตั้งแต่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คะแนนความนิยม “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ขึ้นนำนั้น ทำให้ค่าเงินโลกผันผวน นั่นเพราะเมื่อพิจารณานโยบายหลัก ๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูง หากพรรครีพับลิกัน ชนะ คือการปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคล ในสหรัฐฯลงจาก 21% เหลือ 15% ,การเพิ่มภาษีนำเข้า จากจีนซึ่งล่าสุดอาจตั้งกำแพงภาษีเพิ่มเป็น 150 ถึง 200% ถ้าจีนบุกไต้หวันและการกลับมาของ AMERICAN FIRST อาจเสี่ยงทำให้สงครามการค้าจีน-สหรัฐหรือ TRADE WAR ปลุกความร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง
ขณะที่คะแนนความนิยมของ “ทรัมป์” ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มาพร้อมกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ของสหรัฐฯ ที่ขยับขึ้นตาม สะท้อนถึงความกังวลปัญหาเงินเฟ้ออาจกลับสู่กรอบเป้าหมายยากขึ้น และมีโอกาสทำให้ธนาคารกลางสหรัญฯปรับลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด
นอกจากนี้ยังมีโอกาสหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งนับตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. DOLLAR INDEXปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว กดดันค่าเงินโลกผันผวนในเชิงเปรียบเทียบขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง 4% มาอยู่ที่ 33.67 บาท/เหรียญฯถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ FUND FLOW ชะลอไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้น ๆ
ด้าน “รศ.ดร. สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์” นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมืองกล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ว่า นโยบายของทรัมป์ในหลาย ๆ เรื่องทำให้หนี้สาธารณะของสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น กระทบต่อภาคการคลังรวมถึงการกีดกันทางการค้า ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก มาถึงเศรษฐกิจไทย
“รศ.ดร. สมชาย” กล่าวอีกว่า ระหว่าง “ทรัมป์” กับ “แฮร์ริส” ไม่ว่าใครจะได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ย่อมส่งผลลบต่อเศรษฐกิจไทย แต่สำหรับ ” ทรัมป์” ดูจะมีผลกระทนบมากกว่า
ส่วนความเห็นของคนไทยต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุด “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่า “คามาลา แฮร์ริส” จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
จากนี้ต่อไปจะต้องไปจะต้องจับตาการหาเสียงโค้งสุดท้ายอย่างใกล้ชิด เพราะเชื่อแน่ว่าทั้ง 2 คู่ชิงจะต้องมีทีเด็ดให้คนทั่วโลกตะลึงอีกอย่างแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews