ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. ร่วมกันให้สัมภาษณ์ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กรณีรับคดีดิไอคอนเป็นคดีพิเศษ
ร.ต.อ.วิษณุ เผยว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางได้ส่งสำนวนให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ โดยดีเอสไอจะมีการพิจารณารับเป็นคดีพิเศษได้ 2 ช่องทาง คือ 1.ความผิดตามบัญชีท้าย หรือ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527
และ 2.หากไม่ได้อยู่ในบัญชีท้ายก็จะเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งในกรณีนี้ทางอธิบดีดีเอสไอได้มอบหมายให้ตนในฐานะประธานกลั่นกรองการรับเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรค 1 (1) ซึ่งจะเกี่ยวกับ พ.ร.ก.กู้ยืมเงินฯ ประกอบกับ พ.ร.บ.คอมพ์ ส่วนนี้จะอยู่ในบัญชีท้ายของ พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
จึงได้เชิญพนักงานสอบสวนของ บช.ก. และผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม และพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอันเป็นประโยชน์ให้คณะกรรมการกลั่นกรองได้พิจารณาในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะรับข้อเท็จจริงและพิจารณาพยานหลักฐานว่าเป็นความผิดตามบัญชีท้ายอย่าง พ.ร.ก.กู้ยืมเงินฯ มีลักษณะเป็นคดีพิเศษหรือไม่ แต่เท่าที่รับฟังข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินฯ และ พ.ร.บ.คอมพ์ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์เพื่อรีบเสนอให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณารับเป็นคดีพิเศษใน 2 ความผิดนี้
ทั้งนี้ ดีเอสไอจะทำงานร่วมบูรณาการกับตำรวจ ไม่ใช่การนับ 1 แต่เป็นการนับ 9 นับเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด ดังนั้น หากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ทางตำรวจก็ยังจะมาร่วมสอบปากคำกับดีเอสไอได้ ส่วนสถานที่ที่จะใช้ในการสอบปากคำต้องขอประชุมพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง เพื่อให้สะดวกที่สุด
ยืนยันว่าเราไม่ไปตัดอำนาจของตำรวจที่มีการทำมาก่อนแน่นอน เพราะเราทำงานร่วมกัน สนับสนุนกัน บูรณาการทีมงานกัน และทาง บช.ก. ก็ได้ส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติมมาให้ดีเอสไอตลอดเวลา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews