เจ็บจี๊ด! ทองร่วงแรง

 

 

เขย่าขวัญไปทั้งโลกสำหรับราคาทอง Gold Spot ที่ร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 โดยตลาดทองคำยังคงถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ขานรับ “Trump Trade” ส่วนประธานเฟด “เจอโรม พาวเวลล์” มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เฟดไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

 

 

 

ขณะที่ราคาทองไทยตลอดทั้งสัปดาห์ร่วงลงแรงเช่นกัน เริ่มต้นกันที่วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ราคาทองปรับลง 100 บาท ถัดมาวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน ราคาทองร่วงลง 650 บาท และตลอดทั้งวันผันผวนสุดขีด ปรับขึ้นลง 16 ครั้งและวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน เป็นอีกหนึ่งวันที่ราคาทองดิ่งลงแรงร่วง 600 บาท ปรับขึ้นลงรวม 9 ครั้ง

 

 

ล่าสุด 16 พฤศจิกายน ทองคำแท่ง รับซื้อ 42,250 ขายออก 42,350 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 41,492 บาท 92 สตางค์ ขายออก 42,850 บาท

 

 

ด้านราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot อยู่ที่ 2,563 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนความเคลื่อนไหวของกองทุนทองคำ SPDR ขายออก 1.15 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 867.37 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ขายสุทธิ 24.42 ตัน ส่วนปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิแล้ว 11.74 ตัน

 

 

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. คุยกับ “นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” นายกสมาคมค้าทองคำ ถึงแนวโน้มราคาทองคำ โดย “นายจิตติ” กล่าวย้ำว่า นับตั้งแต่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ราคาทองโลกร่วงลงแล้วกว่า 200 เหรียญ/ออนซ์ ดังนั้นต้องจับตานโยบายของ”โดนัลด์ ทรัมป์”อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2568 แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ราคาทองไม่น่าที่จะร่วงลงไปมากกว่านี้แล้ว

 

 

“ตอนนี้คือข่าวเรื่องทรัมป์ขึ้นมาเลยทำให้ผันผวนทั้งทองคำ ทั้งอัตราแลกเปลี่ยน เพราะว่าเงินบาทนี่ อ่อนค่าลงไปเยอะ ทีนี้ทองคำก็ผันผวนตั้งแต่ทรัมป์ชนะเลือกตั้งมา ทองคำลดลงมา 200 กว่าเหรียญต่อออนซ์)

 

 

ขณะที่ “นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พฤศจิกายน 2567 ปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือน ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา จากระดับ 69.70 จุด มาอยู่ที่ระดับ 67.13 ลดลง 2.57 จุด หรือคิดเป็น 3.69% โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับลดลงมานั้น ได้แก่ แรงขายทองคำจากธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ , กระแสเงินทุนไหลเข้าทรัพย์สินเสี่ยงมากขึ้น, การลดปริมาณซื้อทองคำของธนาคารจีน และสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนมีแนวโน้มเริ่มคลี่คลาย

 

 

สำหรับการคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือน พฤศจิกายน ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ว่า ราคาทองคำตลาดโลก ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 2,576 – 2,775 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 42,200 – 44,800 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ

 

 

ดังนั้นในภาพรวมการลงทุนทองคำในเดือน พฤศจิกายน 2567 ราคาทองคำมีแนวโน้มผันผวน และอาจมีการปรับฐานในระยะสั้น เนื่องจากตลาดกำลังรอดูทิศทางนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นในช่วงต้นปี 2568 หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งการลงทุนทองคำในระยะสั้น นักลงทุนอาจรอซื้อในช่วงที่ราคาทองคำปรับฐานลง และหากราคาฟื้นตัวขึ้นไปแตะระดับแนวต้านได้ การขายทำกำไรบางส่วนอาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยง

 

 

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ “โดนัลด์ ทรัมป์” รวมถึงมุมมองเศรษฐกิจของประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ที่จะฟันธงลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อไหร่ อย่างไร และสถานการณ์ของสงครามที่อาจจะปะทุขึ้นอีก เพราะทุกปัจจัยแวดล้อมที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลต่อความมั่งคั่งของนักลงทุนนั่นเอง

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews