นายกฯแพทองธาร หารือนักธุรกิจสหรัฐฯ 40 บริษัท ส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ “โดนัลด์ ทรัมป์”กลับมาเป็นประธานาธิบดี ขณะ”ชูศักดิ์” ขอ “สนธิ” ให้คำนึงถึงบทเรียนรัฐประหาร ฉุด รั้งประเทศไม่มีเงื่อนไขปลุกม็อบ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานในตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล โดยให้การต้อนรับนายโรเบิร์ต โกเดค (H.E. Mr. Robert Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย และนายไบรอัน แม็คฟีเตอร์ส (Mr. Brian McFeeters) รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการระดับภูมิภาค สภาธุรกิจสหรัฐฯ – อาเซียน พร้อมผู้แทนบริษัทสมาชิก จำนวนกว่า 40 บริษัท ครอบคลุมในธุรกิจพลังงาน สาธารณสุข เทคโนโลยีดิจิทัล การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมไปถึงที่ปรึกษาด้านกฎหมายและการเงิน เข้าร่วมการหารือด้วย ซึ่งได้แลกเปลี่ยนมุมมองและเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่า จะช่วย สนับสนุนการลงทุนและ สร้างงานนับหมื่นคนในประเทศไทย
โดยเลขาสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวถึงการประเมินท่าทีของนักลงทุนต่อนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ว่า ต้องดูรายละเอียดมาตรการนโยบายของรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ ส่วนที่มีแนวคิดจะดึงการลงทุนกลับสหรัฐฯ นั้น สหรัฐฯ ก็มีเครือข่ายการลงทุนในอาเซียนจำนวนมาก และจำเป็นต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมในภูมิภาคนี้อยู่ และคิดว่าไม่ถึงขั้นตัดขาด
ส่วนความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็นอดีตรัฐมนตรีในยุครัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรียุครัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ประกาศลงถนนจะนำมาสู่เหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า จากประสบการณ์ส่วนตัว เราผ่านเรื่องนี้มาช้านาน จนนำมาสู่การปฏิวัติรัฐประหาร ประสบการณ์ตรงนี้คือบทเรียนสำคัญ
สำหรับประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยหยุดอยู่กับที่และถอยหลัง เพราะเรื่องการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้ประเทศฉุดรั้ง และเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องพึงระลึกซึ่งอาจจะทำให้เกิดวังวนเดิมๆ ที่ทำให้ประเทศหยุดอยู่กับที่ ไปไหนไม่ได้ ขณะที่ประเทศอื่นๆ เจริญก้าวหน้าไปมาก
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่า รัฐบาลแพทองธาร อยู่ได้อีกไม่ถึง 1 ปี ว่า เป็นคำพูดทางการเมืองถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะหากใครไปเป็นฝ่ายค้านก็จะไม่มีทางพูดว่ารัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องพูดว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ครบเทอม พร้อมไม่ได้วิตกกังวลคำร้องในชั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องยุบพรรคเพื่อไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews