นับถอยหลังใกล้ระเบิดศึกดวลแข้งการแข่งขันแล้ว สำหรับ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 หรือ (Asean Mitsubishi Electric Cup 2024) ที่กำหนดโม่แข้งกันระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม 2567 – 5 มกราคม 2568 ที่จะถึงนี้
สำหรับ “ทัพช้างศึก” ทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์เก่า และแชมป์รายการนี้ 7 สมัย ภายใต้การทำทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น มีเป้าหมายเดียวคือการป้องกันแชมป์ให้ได้อีกสมัยหลังครองเบอร์ 1 อาเซียน มา 2 ครั้งติดต่อกัน
โดย ทีมทีมชาติไทย ถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ มาเลเซีย, สิงคโปร์, กัมพูชา และ ติมอร์ เลสเต ส่วนในกลุ่มบี ประกอบด้วย เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เมียนมา และ สปป.ลาว
ซึ่งภายหลังที่ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้ประกาศรายชื่อนักเตะ 26 คน ชุดลุยศึก อาเซียน 2024 ออกมาเรียบร้อยแล้ว ได้สร้างความเซอร์ไพรส์ ให้กับแฟนบอลไม่น้อย หลงจากมีชื่อ นักเตะลูกครึ่งไทย ติดเข้ามาถึง 6 คน เรียกว่าเป็นสถิติใหม่ของทีมชาติไทย ที่มีนักเตะลูกครึ่งไทย อยู่ภายในทีมชุดเดียวกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของไทยเลยทีเดียวซึ่งแต่ละคนจะมีใครบ้าง วันนี้จะพาไปไล่เรียงกันดูว่า พวกเขาเหล่านี้จะฝากความหวังของคนทั้งประเทศได้หรือไม่ เราลองไปรู้จักกับเขากัน
เริ่มจาก นิโคลาส มิคเคลสัน นักเตะลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ วัย 23 ปี กำลังสร้างชื่อเสียงในศึก เดนิช ซูเปอร์ลีกา (Danish Superliga) กับ โอบี โอเดนเซ (Odense Boldklub) ฤดูกาล 2024/25 ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นทั้งในเกมรับและเกมรุก เขากลายเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีม และเป็นตัวเลือกที่ขาดไม่ได้ในตำแหน่งแบ็คขวา โดยจุดเด่นของเขาคือ มีการยืนตำแหน่งที่ดีและสามารถตัดบอลได้อย่างแม่นยำ ความสามารถในการป้องกันตัวต่อตัวยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับปีกความเร็วสูง มีความโดดเด่นในการเติมเกมรุกจากริมเส้น ด้วยความเร็วและความคล่องตัว และ เปิดบอลครอสเข้าเขตโทษได้อย่างแม่นยำ สร้างโอกาสทำประตูให้เพื่อนร่วมทีมหลายครั้ง ใช้ความแข็งแกร่งทางร่างกายในการดวลตัวต่อตัวและป้องกันลูกกลางอากาศได้ดี ความฟิตที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาสามารถวิ่งขึ้น-ลงตลอด 90 นาที
ด้วยฟอร์มการเล่นในฤดูกาลนี้ทำให้ มิคเคลสันถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทยชุดลุยศึก อาเซียนคัพ 2024 ด้วยฟอร์มที่เสถียรและความสามารถที่หลากหลาย เขามีโอกาสสร้างชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในแบ็คขวาที่ดีที่สุดของไทยต่อไปอีกหลายปี
ถัดมา โจนาธาร เข็ม กองหลังลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ปัจจุบันสังกัดสโมสร ราชบุรี เอฟซี ในศึกไทยลีก หากเราย้อนกลับไปดูเส้นทางทีมชาติไทยของ โจนาธาร สิ่งที่จะได้เห็นเป็นลำดับแรกคือดราม่าชนิดไม่ทันตั้งตัว เริ่มจากถอนศึก AFF 2021 ด้วยข้อสงสัยว่ามีปัญหากับรุ่นพี่ในทีม ตามมาด้วยการสุมไฟครั้งใหญ่ในซีเกมส์ที่กัมพูชา เมื่อเจ้าตัวประกาศเลิกเล่นทีมชาติก่อนแข่งนัดชิงชนะเลิศ แถมจบเกมยังไปโยนเหรียญเงินแจกแฟนบอลจนมีประเด็นหลังจากนั้น คำว่าทีมชาติไทยกับชีวิตของเขาก็กลายเป็นเส้นขนานทันที แต่ด้วยส่วนสูง 190 เซนติเมตรกับตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กตัวชนที่มาพร้อมกับความแข็งแกร่ง ดุดัน มีความเร็ว บู๊ล้างผลาญทั้งภาคพื้นและภาคอากาศ คุณสมบัติแบบนี้หาเจอในฟุตบอลไทยไม่ง่ายเลย ไหนยังมีสไตล์การเล่นแบบยุโรป ทั้งบู๊ และบุ๋น รวมไปถึงความแข็งแกร่ง ดุดัน มาพร้อมกับลูกกลางอากาศและภาคพื้นที่ไว้ใจได้ บวกกับอายุที่เพิ่งจะ 22 ปี ยิ่งรับประกันได้เลยว่าหากไม่เจ็บไม่ป่วย ยังไงก็ต้องจองสัมปทานกองหลังทัพช้างศึกไปอีกนาน
ส่วนนักเตะคนต่อมาได้แก่ เจมส์ เบอร์เรดฟอร์ด แบ็คขวาจอมลุยลูกครึ่งไทย-อังกฤษ หากคุณไม่ใช่แฟนบอลของ “ช้างป่าห้วยขาแข้ง” อุทัยธานี เอฟซี คงต้องมีคำถามว่าเจ้าหนุ่ม “เจมส” ฟอร์มดีแค่ไหนจนติดทีมชาติไทยไปลุยศึกอาเซียนได้ เราขอตอบเลยว่า “ต้องลองดูด้วยสายตาตัวเองสักครั้งในชีวิต” นั่นเพราะว่า เจมส์ พกสไตล์การเล่นแบบยุโรปมาครบถ้วนจากบ้านเกิดฝั่งบิดา ณ ประเทศอังกฤษ ด้วยประสบการณ์เคยเข้าอะคาเดมี่ของ ไบรท์ตัน ทีมดังศึกพรีเมียร์ลีก ก่อนโชคชะตาจะพาให้ได้เล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกด้วยวัยเพียง 17 ปี ในลีกดิวิชั่น 6 อังกฤษ กับสโมสร แลนซิ่ง และเพียงปีแรกที่ย้ายมาเล่นไทยลีกเมื่อฤดูกาล 2023-24 กับอุทัยธานี ก็ยึดตัวจริงตำแหน่งแบ็กขวาได้เลยโดยไม่ต้องปรับตัวสักนิด ก่อนจะคว้ารางวัล 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ไทยลีก ประจำฤดูกาลดังกล่าวไปนอนกอดที่บ้านอย่างไร้ข้อกังขา
ปิดท้ายกันที่ พาตริก กุสตาฟส์สัน ลูกครึ่งไทย-สวีเดน จากสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เพิ่งกลับมาจากการยืมตัวในเจลีก 3 กับนารา คลับ เปิดใจหลังมีชื่อติดทัพ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2024” พาตริก กล่าวว่า ดีใจมากที่มีชื่อติดทีมชาติไทยอีกครั้ง ทัวร์นาเมนต์นี้เราเป็นแชมป์เก่ามาสองสมัยติดต่อกัน ซึ่งตนก็พยายามเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เพื่อช่วยทีมชาติไทยในการป้องกันแชมป์ครั้งนี้ จุดเด่นของ พาตริก มีร่างกายสูงใหญ่และความแข็งแกร่งบังบอลและดวลตัวต่อตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยสไตล์การเล่นที่ครบเครื่อง เขาคือหนึ่งในกองหน้าที่จะเป็นกำลังสำคัญของทั้งสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด และทีมชาติไทยในอนาคตอันใกล้! ซึ่งงานนี้ แฟนบอลไทย คงต้องคอยลุ้นและส่งแรงเชียร์ให้กับทีมชาติไทยในการเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์ AFF Cup 2024 มาครองอีกครั้งให้ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews