Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“อิ๊งค์” ทรงพลัง “ทักษิณ” กุนซือ

 

 

 

ถูกยกให้เป็นสตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก อันดับ 29 ประจำปี 2024 ของ Forbes สำหรับนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” โดยอันดับดังกล่าวสูงสุดเป็นที่ 3 ของเอเชีย และที่ 1 ของอาเซียน

 

 

 

Forbes ระบุว่า การขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทยด้วยอายุ 37 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย และเป็นลูกสาวคนเล็กของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” รวมถึงเป็นหลานสาวของ “นางสาวยิ่งลักษณ์” อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ที่เคยมีชื่อติดในรายชื่อสตรีทรงอิทธิพลในปี 2011-2012 โดยมีอันดับสูงสุดอยู่ที่อันดับที่ 31

 

 

ซึ่งการที่นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” ถูกยกให้เป็นสตรีทรงอิทธิพลที่สุดในโลก อันดับ 29 นั้น ในมุมมองนักวิชาการ “รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย” อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สะท้อนประเด็นดังกล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ไว้อย่างน่าสนใจ โดยระบุว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับประเทศไทยในประเด็นดังกล่าว เพราะแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยทั้งในมิติการเมือง มิติเศรษฐกิจอยู่ในเรดาร์ของต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อบทบาทของไทยในเวทีโลกที่จะมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

 

 

“ผมความคิดว่าตรงนี้ ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจเพราะว่าการที่นิตยสารฟอร์บส ซึ่งก็เป็นนิตยสารระดับโลกได้ให้ความสนใจตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นนายกฯอุ๊งอิ๊งหรือว่าท่านใดก็ตาม ก็สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยเราก็อยู่ในเรดาร์ของเศรษฐกิจการการเมืองระหว่างประเทศ เพราะฉะนั้นการที่ทางฟอร์บสเอาไปลง ก็ทำให้บทบาททางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศไทยโดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีความโดดเด่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งนะครับ”

 

 

“รศ.ดร.ยุทธพร” กล่าวอีกว่า ในปี 2568 นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” มีความความท้าทายในการบริหารบ้านเมืองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเศรษฐกิจปากท้องที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้รวดเร็ว พร้อมกับขับเคลื่อนนโยบายใหม่ๆออกมา เพราะถ้าทำให้เศรษฐกิจดี ก็จะส่งผลทำให้การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

 

 

“มิติทางด้านเศรษฐกิจตอนนี้คือสิ่งที่ส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมือง ดังนั้นถ้าเศรษฐกิจไม่ดีก็มีโอกาสที่จะส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองเกิดขึ้นก็ได้ แต่ถ้าเศรษฐกิจดีจะทำให้การเมืองนั้น มีเสถียรภาพมากขึ้น ดังนั้นปี 2568 ผมให้น้ำหนักกับเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่นะครับ”

 

 

และเมื่อถามถึงบทบาทของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ” นับจากนี้ ทั้งในมิติการเมือง เศรษฐกิจ และการเป็นโค้ชให้กับ นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” จะมีความเข้มข้นมากน้อยเพียงใด คำตอบที่ได้น่าสนใจ

 

 

“ผมคิดว่าคุณทักษิณ ก็ยังคงต้องมีบทบาททางการเมืองในฐานะที่เป็นบทบาท ที่ไม่เป็นทางการ ส่วนบทบาทที่เป็นทางการ ก็เป็นเรื่องของนายกฯของรัฐบาลไป ในขณะที่ทางคุณทักษิณก็จะอาจจะเป็นเหมือนโค้ชที่คอยให้คำปรึกษาคำแนะนำ หรือว่าช่วยเข้ามาเคลียร์ปัญหาเมื่อเวลาที่มีปัญหา เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็คงต้องเป็นสิ่งที่เราเห็นในปีหน้า โดยเฉพาะช่วงต้นปีก็จะมีการเมืองท้องถิ่นในสนามใหญ่ ก็คืออบจ. ดังนั้นเนี่ยก็มีโอกาสที่เราจะเห็นคุณทักษิณเดินสายลงพื้นที่ ซึ่งการลงพื้นที่จะเป็นการไปช่วยเหลือผู้สมัครก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้เป็นประเด็นหลักเท่านั้น แต่ว่าประเด็นหลักอยู่ที่เรื่องของการออกไปสร้างคะแนนนิยมให้กับทางพรรคเพื่อไทยเรื่องคะแนนนิยมของคุณทักษิณกับทางพรรคเพื่อไทยกลับมา หรือแม้กระทั่งการที่จะลงไปกระชับพื้นที่ ในโครงสร้างทางการเมืองของพรรคโดยเฉพาะกับบรรดาผู้ที่มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจหรือการเมือง ซึ่งเป็นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งในปี 2570 หรืออาจเกิดขึ้นเร็วกว่านั้น เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็คือสิ่งที่เราจะเห็นบทบาทของคุณทักษิณในปีหน้า”

 

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ อดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ได้สะท้อนมุมมองเรื่องเศรษฐกิจไทยไว้อย่างน่าสนใจ โดยจะผลักดันให้จีดีพีของไทยเติบโตขึ้นไปที่ 4-5%

 

 

 

ด้านศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวชะลอลงที่ 2.6% จากปี 2567 คาดเติบโต 2.7% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวดีกว่าปีที่ผ่านมาจากเม็ดเงินเบิกจ่ายงบประมาณที่ต่อเนื่อง แต่ระดับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังคงต่ำสุดในภูมิภาค และต่ำกว่าศักยภาพเดิมที่เคยเติบโตเฉลี่ย 3 – 4%

 

 

ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจมีความท้าทาย จึงจะต้องจับตานโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยของรัฐบาล ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” อย่างใกล้ชิด เพราะเชื่อแน่ว่าภายใต้ที่มีอดีตนายกฯทักษิณเป็นกุนซือ จะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอีกอย่างแน่นอน เพราะเมื่อเศรษฐกิจดี ย่อมส่งผลต่อคะแนนนิยมในตัวนายกฯอิ๊งค์ที่จะเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง

 

 


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube