ส่อง “สารัชถ์-ทักษิณ-เสี่ยหนู” ก๊วนกอล์ฟ 3 คนรวย 4 แสนล้าน
จุกๆเสียดๆคันๆกับฉายารัฐบาลและรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น”รัฐบาล (พ่อ) เลี้ยง”, นายกฯ “แพทองโพย” ,เสี่ยหนู ภูมิใจขวาง,ทวีไอพี,และอื่นๆ และในขณะเดียวกันปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาปรากฏภาพศูนย์รวมจักรวาลอำนาจ อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” เสี่ยหนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” และ”เสี่ยกลาง-สารัชถ์ รัตนาวะดี” เจ้าพ่อ gulf ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ที่ตอนนี้เป็นขาใหญ่ด้านธุรกิจพลังงานที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่ง
ภาพก๊วนกอล์ฟอำนาจนี้ ถูกวิพากษ์ เป็นการสยบรอยร้าวรัฐบาลหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ บ้านใหญ่ชินวัตร และบ้านใหญ่ ชาญวีรกูล มีปัญหางองแง้งกันอยู่ ทำให้ทักษิณ ตะเพิดพรรคร่วมที่หนีการประชุมครม.จวกหนักว่าเป็นพวกอีแอบ ถ้าไม่พอใจอยู่ก็ให้ออกไป และต่อมา ค่ายเพื่อไทย ออกแคมเปญ 180 วัน รอได้เพื่อรัฐธรรมนูญประชาชน อย่าเชื่อ “อีแอบ” ล็อกสองชั้น รัฐบาลต้องลงเรือลำเดียวกัน หลังจากค่ายภูมิใจไทยโหวตสวนมติวิปรัฐบาลในร่างพระราชบัญญัติประชามติ
หลังมีภาพก๊วนกอล์ฟนี้เผยแพร่ออกไป ทักษิณออกมาให้ข่าวว่าจริงๆ นายสารัชถ์เป็นคนเชิญไป ไม่มีนักการเมือง แต่นายอนุทินเป็นเพื่อนนายสารัชถ์ มา 20 กว่าปี จึงชวนนายอนุทินไปในฐานะเพื่อน นายอนุทินจึงได้ไป ปรากฏว่าไม่มีนักการเมือง แต่มีประเด็นการเมืองเยอะ พร้อมระบุว่าไม่มีอะไรต้องเคลียร์กับนายอนุทิน กติกาง่ายนิดเดียว คนเราเมื่ออยู่ร่วมกัน ก็ต้องเคารพซึ่งกันและกัน จบ ที่ผ่านมาลิ้นกับฟันบางครั้งก็กัดโดนกันบ้างเป็นธรรมดาต่อไปก็ทำงานร่วมกันได้
อย่างไรก็ตามภาพก๊วนกอล์ฟอำนาจแสนล้าน ของทักษิณ เสี่ยหนู และ สารัชถ์ เมื่อ22 ธันวาคม ที่ผ่านมา ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปรากกเป็นข่าว เพราะก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ทั้ง 3คน ก็เคยไปร่วมก๊วนกอล์ฟที่เขาใหญ่มาแล้ว และเสียหนู ก็ออกมายายืนยันว่า แค่ตีกอล์ฟ ไม่มีการเมืองอะไรทั้งนั้น พร้อมแจงความสัมพันธ์กับนายสารัชถ์ว่า”เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปี 2526 เป็นรุ่นพี่ตน 1 ปี เรียนวิศวะ จุฬาฯ เจอกันที่สปอร์ตคลับ ตีเทนนิส แทงสนุ๊ก ตีกอล์ฟด้วยกันตั้งแต่เด็ก”
ทั้งนี้ ถ้าไปส่องทรัพย์สินของทักษิณ เสี่ยหนู และ สารัชถ์ รวมกันแล้ว หลายแสนล้านบาท โดย นายสารัชถ์ เพิ่งติดอันดับ1ของ”เศรษฐีหุ้นไทย” ประจำปี 2567 จากการจัดอันดับ โดย วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยนายสารัชถ์ แห่งอาณาจักรกัลฟ์ ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน มั่งคั่งจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กว่า 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการครองบัลลังก์แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันแล้ว
และเมื่อเดือน ก.ค. 2567 นิตยสาร Forbes จัดอันดับเศรษฐีในประเทศไทยประจำปี 2567 สารัชถ์ รัตนาวะดี เป็นเศรษฐีอันดับ 5 ผู้ที่ไต่อันดับขึ้นมาตลอด 6 ปีตั้งแต่เข้ามาอยู่ในลิสต์ของ Forbes โดยมูลค่าสินทรัพย์รวมล่าสุดปีนี้ 3.38 แสนล้านบาท ส่วนอันดับ คือ เฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลัง1.32 ล้านล้านบาท อันดับ2. ครอบครัวเจียรวนนท์ 1.06 ล้านล้านบาท อันดับ 3. เจริญ สิริวัฒนภักดี 3.68 แสนล้านบาท และอันดับ 4.ครอบครัวจิราธิวัฒน์ 3.64 แสนล้านบาท
ส่วนทักษิณ นั้น เมื่อ 3เมษายน 2567 นิตยสารฟอร์บส (Forbes) จัดอันดับมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.1พันล้านดอลลาร์ หรือ ราว 7.7 หมื่นล้านบาท และมีทรัพย์สินที่น่าสนใจคือบ้านในลอนดอน มูลค่า 264 ล้านบาท,วิลล่าหรูย่านเอมิเรตส์ฮิลส์ของนครดูไบ,เครื่องบินส่วนตัวมูลค่า 45.5 ล้านเหรียญสหรัฐ,รถยนต์หรู 2 คัน ได้แก่ Lexus รุ่น LS 600h L และ Jaguar สีดำ,และยังลงทุนในบริษัท Startup และลงทุนในเหมืองทอง เหมืองเพชร ในแอฟริกาใต้อีกด้วย
ขณะที่ทรัพย์สินของเสี่ยหนูนั้น เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2566 ทาง ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน “เสี่ยหนู รวยถึง 4.4 พันล้าน มียานพาหนะ8 รายการ มูลค่ารวม 749ล้านบาท ได้แก่ รถยนต์ ยี่ห้อ Rolls-Royce มูลค่า 11 ล้านบาท และ Porsche มูลค่า 9.2 ล้านบาท เรือยนต์ 2 ลำมูลค่า 32.5 ล้านบาท เครื่องบิน 3 ลำมูลค่านับพันล้านบาท ส่วนภริยามี 39 ล้าน ทรัพย์สินอื่นๆ อีกเพียบ ซึ่งถ้ารวมทรัพย์สินของทั้งสารัชถ์-ทักษิณ-เสี่ยหนูแล้ว จะมากกว่า 4แสนล้านบาทเลยทีเดียว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews