พิษโควิดสั่งปิด(ผับ)-เด้ง(ตร.)

พิษโควิดสั่งปิด(ผับ)-เด้ง(ตร.)(click ดูวิดีโอ)

การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จากสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ที่ทำให้กลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ แพร่กระจายขยายวงกว้างออกไปในหลายวงการ ทั้ง นักการเมือง ดารานักแสดง รวมถึงวงการตำรวจ และในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ จะเห็นได้จากการแถลงสรุปยอดผู้ติดเชื้อ ตั้งแต่ต้นเดือน เมษายน เป็นต้นมา ในแต่ละวัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อเกือบ แตะ 1,000 คน

จากสถานการณ์ดังกล่าว ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด–19 หรือ ศบค. ได้สั่งปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และอาบอบนวด ใน 41 จังหวัด เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน เป็นต้นไปส่วนสถานบันเทิง ใน 36 จังหวัดที่เหลือ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัด มีอำนาจในการดำเนินการตามกฎหมาย พิจารณาสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวได้ ตามความเหมาะสมของสถานการณ์

กระทบมาถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์วันหยุดยาว ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา หลายพื้นที่เมื่อกลับไปถึง ก็ต้องกักตัว 14 วัน หรือ ให้รายงานตัวกับ อสม. ในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวัง ทั้งนี้ เพื่อเป็นกานสกัดยับยั้งเชื้อโควิด ไม่ให้ลุกลามแพร่กระจายไปมากไปกว่านี้

ย้อนกลับมาที่ต้นกำเนิดของคลัสเตอร์ ครั้งนี้ กับสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ทำให้เกิดอิมแพ็ค ในหลายวงการ ทั้งนักร้องนักแสดง ที่ต่างติดโควิด ทั้งจากทางตรง และติดจาก เพื่อนๆศิลปินในวงการ ต้องเข้ารับการรักษาตัว และบางส่วนต้องกักตัวเฝ้าดูอาการ ทำให้ต้องงดรับงานในวงการชั่วคราว รวมถึงวงการตำรวจ ที่ติดเชื้อโควิด จากเหตุการณ์นี้ แล้วไม่ต่ำกว่า 100 นาย

พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 มีคำสั่ง ให้ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ และพ.ต.ท.ธนากร งามเย็น สวป.สน.ทองหล่อ รักษาราชการแทน รอง ผกก.ป.สน.ทองหล่อ ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสถานประกอบการพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ

ส่วนสถานที่แพร่กระจายโควิด-19 อย่างคริสตัลคลับ และเอเมอรัลด์ ย่านทองหล่อนั้น ล่าสุด ศาลแขวงพระนครใต้ สั่งจำคุก ผู้จัดการสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (มาตรการควบคุมโรค) และ พ.ร.บ.สถานบริการ เป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ระบุว่า แม้ ปัจจุบันมีการดำเนินคดีกับผู้จัดการร้านสถานบันเทิง 2 แห่งไปแล้ว แต่ภายหลังมีกระแสข่าวว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่งตัวจริง เป็นกรรมการผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะเริ่มตรวจสอบจากเอกสารทางราชการ เพื่อพิสูจน์ความชัดเจนเรื่องการถือครองหุ้นก่อน จากนั้นก็ต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน เพื่อหาความชัดเจนเรื่องการออกใบอนุญาต ก่อนจะนำมาพิจารณาว่าเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายหรือไม่

“เจ้าพนักงานตำรวจได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน นะครับ ในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้อง นะครับ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าของนะครับ จนกระทั่งทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้มีคำสั่งนะครับ ได้ทัคำสั่งที่ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่มาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว นะครับ เป็นคำสั่งที่104/2564 นะครับ เพื่อมาดำเนินการในการรวบรวมพยานหลักฐาน นะครับ แต่เพื่อความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมในส่วนนี้นะฮะ ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล อย่างที่ท่านโฆษกได้นำเรียนไปแล้วนะครับ ท่านผู้บัญชาการได้มีการสั่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน นะครับ ในส่วนของการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในส่วนของ 2 สถานบริการดังกล่าวและนะครับ ในส่วนนี้ครับ”

สำหรับสถานบันเทิงทั้งสองแห่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้เสนอเรื่องขอสั่งปิดสถานที่ดังกล่าว ครั้งที่ 1 มีกำหนด 30 วัน และอยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งให้ปิดสถานบริการดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี พร้อมกับขยายผลการสอบสวนเพิ่มเติม ว่ายังมีนิติบุคคลหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news