Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

เฮง! ปีทอง รวยพุ่ง

 

 

สร้างความฮือฮาอยู่ไม่น้อยสำหรับราคาทองไทยที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงตลอดปี 2567 จากราคาต้นปี 1 มกราคม 2567 ทองคำแท่งรับซื้อ 33,550 บาท ขายออก 33,650 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 32,942 บาท 68 สตางค์ ขายออก 34,150 บาท และล่าสุด 28 ธันวาคม 2567 ทองคำแท่งรับซื้อ 42,250 บาท ขายออก 42,350 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 41,492 บาท 92 สตางค์ ขายออก 42,850 บาท หรือปรับขึ้นมาแล้ว 8,700 บาทต่อบาททองคำ เช่นเดียวราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot ที่ทำนิวไฮเป็นว่าเล่น

 

 

แน่นอนว่า ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้นนั้น มาจากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด, สงครามระหว่างรัสเซีย ยูเครน ที่ทำให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย รวมทั้งการเข้ามาซื้อตุนทองคำของธนาคารกลางหลายๆประเทศ

 

 

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ นายกสมาคมค้าทองคำ “นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” ถึงทิศทางราคาทองคำในปี 2568 ว่า คาดราคาทองจะไม่ผันผวนแรงเท่ากับปี 2567 แต่อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่ราคาทองคำโลกจะพุ่งขึ้นไปแตะ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้ หรือถ้าเทียบเป็นเงินบาทก็จะอยู่ที่ประมาณ 46,000 บาทต่อบาททองคำ

 

 

“ปีหน้าราคาทอง จะมีโอกาสขึ้นมาแตะ 3,000 เหรียญ ส่วนของไทยก็ต้องดูอัตราแลกเปลี่ยน เพราะคิดว่า อาจจะมี 45,000 หรือ 46,000 ขึ้นไป”

 

 

นอกจากนี้ “นายกสมาคมค้าทองคำ” แนะให้จับตาการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการของ “นายโดนัลด์ ทรัมป์” ในช่วงกลางเดือนมกราคม โดยเฉพาะนโยบายทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจที่จะปั่นป่วนส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำในปี 2568

 

 

เช่นเดียวกับ “นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG มองว่า ปี 2568 มีโอกาสที่ราคาทองจะขึ้นไปแตะ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เนื่องจากยังมีปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์

 

 

ประเด็นความเปราะบางทางเศรษฐกิจ และประเด็นเรื่องการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก สนับสนุนให้ทองคำยังคงได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าระยะสั้นจะสลับมาแกว่งตัวสร้างฐานบ้าง ซึ่งต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ระหว่าง “รัสเซีย-ยูเครน” และตะวันออกกลาง

 

 

ขณะที่ MTS Capital โพสต์สถิติทองคำย้อนหลัง 10 ปี ระบุว่า หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2017-2023 จะเห็นได้ชัดว่าราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot จากสถิติย้อนหลังจะเห็นได้ว่าในช่วงเดือน ธ.ค. เป็นเดือนที่มี สถิติการปิดบวก ดีที่สุด โดยมีอัตราการปิดบวกถึง 8 ใน 10 ครั้ง และมีเพียง 2 ครั้งที่ปิดลบ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 ครั้งที่ปิดลบในเดือน ธ.ค. ต่อมา เดือน ม.ค. ก็สามารถกลับขึ้นมาปิดบวกได้

 

 

ซึ่งภาพรวมแล้วจากสถิติย้อนหลัง 10 ปี สะท้อนให้เห็นถึง ราคาทองคำ ที่มักจะให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงสิ้นปี จนถึงต้นปีใหม่ โดยมีค่าเฉลี่ยผลตอบแทนช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค. จะอยู่ที่ประมาณ 2-3%

 

 

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลต่อราคาทองคำอย่างใกล้ชิด เพราะทุกการขยับ ทุกการเปลี่ยนแปลง ย่อมส่งผลต่อความมั่งคั่งของนักลงทุนนั่นเอง

 

 


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube