10 วันอันตรายปีใหม่ 4 วันตาย 175 เข้มคืนเคาท์ดาวน์
วันนี้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน หรือ ศปถ. แถลงตัวเลขช่วง 10 วันอันตรายปีใหม่ รวม 4 วัน เสียชีวิตแล้ว 175 ราย สาเหตุหลักยังคงมาจากขับรถเร็วกว่ากำหนด ขณะอธิบดี ปภ.พอใจภาพรวมครึ่งทางตัวเลขสถิติลดลง พร้อมกำชับทุกภาคส่วนเข้มงวดคืนเคาท์ดาวน์
วันนี้ นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ในช่วง 10 วันอันตรายต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดย สถิติของวันที่ 30 ธันวาคม 2567 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 261 ครั้ง บาดเจ็บ267 คน เสียชีวิต 32 ราย
สถิติสะสม รวม 4 วัน ระหว่างวันที่ 27 -30 ธันวาคม 2567 เกิดอุบัติเหตุ 1,134 ครั้ง บาดเจ็บ 1,109 คน เสียชีวิต 175 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด คือ พระนครศรีอยุธยา โดยกรุงเทพมหานครและ นนทบุรี มีผู้เสียชีวิตสะสม สูงสุด จังหวัดละ 9 คน ส่วนสาเหตุหลัก ยังมาจากขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
ขณะเดียวกัน อธิบดีกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ได้เน้นย้ำจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุใหญ่ พร้อมเรียกทางจังหวัดหารือและฝากข้อสังเกตกลับไปดำเนินการ โดยการดำเนินการความปลอดภัยทางถนนมาถึงครึ่งทางแล้วก็พอใจในภาพรวม เพราะสถิติตัวเลขลดลง แต่ก็เป็นห่วงในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม ถึงวันที่ 1 มกราคม โดยกำชับทุกภาคส่วนช่วยกันดูแลความปลอดภัยเข้มข้นเป็นพิเศษ อีกทั้งเน้นย้ำทางผู้ว่าราชการจังหวัดในการดูแลถนนสายรอง ในช่วงคืน countdown ดังนั้นตัวเลขต้องประเมินกันอีกครั้ง ซึ่งทางศูนย์ฯ ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียแม้แต่คนเดียว ดังนั้น เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนักและการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น
ด้าน พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ในคืนวัน countdown เจ้าหน้าที่ตำรวจจะลงไปตามพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการจัดงาน เพื่อต้องการควบคุมไม่ให้ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาดกลับมาใช้รถในการเดินทางออกจากพื้นที่จัดงานแล้วกลับบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะป้องกันตั้งแต่ก่อนขับรถกลับบ้าน ส่วนการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากหมวกกันน็อคจะใช้รูปแบบ “เปลี่ยนจุดจับ เป็นจุดแจกหมวกกันน็อค” ให้เยาวชนและคนที่อายุน้อยสวมหมวกกันน็อค เพื่อความปลอดภัย ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด ก็จะสามารถลดอุบัติเหตุได้มากขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
