Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ฉีดวัคซีนโควิด..ยิ่งช้ายิ่งเจ็บ

ฉีดวัคซีนโควิด..ยิ่งช้ายิ่งเจ็บ(click ดูวิดีโอ)

กว่าครึ่งเดือนแล้วที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขยับขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เพิ่มจากหลักสิบเป็นหลักร้อย จนพุ่งทะลุ 1 พันรายต่อวันไปแล้ว และยังไม่มีสัญญาณของการควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้เหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นเรื่องของการรายงานตัวเลขแต่ละจังหวัดที่สูงขึ้น พร้อมๆ กับการเร่งมือจัดสรรโรงพยาบาลสนามให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ทางเลือกของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเหลืออยู่ไม่มากนัก กล่าวคือ 1.ต้องเร่งการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด ครอบคลุมที่สุด 2. การใช้ยาแรง ล็อกดาวน์ในบางพื้นที่หรือทั้งประเทศ โดยในประเด็นล็อกดาวน์นั้น ทา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แย้มออกมามาว่าอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการการควบคุมสถานการณ์ ที่อาจต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ เช่น กทม.และปริมณฑล เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ และชลบุรี และจะชงให้ศบค. ชุดใหญ่ พิจารณา ศุกร์ที่ 16 เม.ย. นี้

ส่วนเรื่องของวัคซีนนั้นแยก ได้ 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือความล่าช้าอย่างมาก โดยข้อมูลของกรมควบคุมโรคระบุว่าตั้งแต่ 28 ก.พ.-13 เม.ย.64 ประมาณ 5.8 แสน โดส ใน 77 จังหวัด ซึ่งตัวเลขนี้ทางภาครัฐ อย่าง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค มองว่าการฉีดวัคซีนไปแล้วเกือบ6แสนโดสในเวลา 15 วันนั้น ยังถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายในการฉีดพร้อมระบุว่าวัคซีนหลักจะมาถึงไทยเดือน มิ.ย. ประมาณ 6-10 ล้านโดส ไทยมีศักยภาพฉีดให้ประชาชนได้อย่างครบถ้วน ส่วนวัคซีนอีก 1 ล้านโดสที่อยู่ในประเทศไทยแล้วที่เข้ามาเมื่อ 10เม.ย. ขณะนี้รอการตรวจทางห้องปฏิบัติการและเอกสารจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก่อนจะมีการส่งมอบให้กรมควบคุมโรคในเร็วๆนี้ สอดคล้องกับที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า การฉีดในรพ.ทั้งรัฐและเอกชนเป็นหลักที่มีอยู่ราว 1,000 แห่ง หากฉีดแห่งละ 500 คนต่อวัน เฉลี่ย 1 เดือนจะฉีดได้ราว 10 ล้านโดส ซึ่งระบบสามารถรองรับได้ แต่ต้องจัดระบบไม่ให้มีความแออัด

ในขณะที่รัฐมองว่าเป็นไปตามเป้า แต่บางคนเห็นว่ายังน้อยถ้าเทียบกับประชากรทั้งประเทศ 66 ล้านคน อย่างนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กในทำนองเปรียบเทียบกับประเทศกัมพูชา ที่เพิ่งประกาศฉีดวัคซีนครบ 1 ล้านโดสไปเมื่อวันที่ 12 เม.ย. นี้ ซึ่งครอบคลุมประชากรทั้งสิ้น 6.25% ในขณะที่ประเทศไทย 5แสนกว่าโดส ยังไม่ถึง 1% ของประชากร นี่ก็เป็นหลักฐานที่ชี้ได้ว่าประเทศไทยเราดำเนินการฉีดวัคซีนล่าช้าอยู่มาก ทั้งนี้ทางศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา เคยบอกว่าหากไทยต้องการให้เกิดภูมิคุ้มกันกลุ่ม ต้องฉีดวัคซีน 85-100 ล้านโดส หรือประมาณ 42ถึง50ล้านคน

นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องของการจัดหาวัคซีนทางเลือกเพิ่มมาเสริมของทางภาครัฐ ซึ่งวันก่อนนายกลุงตู่เซ็นปากกาตั้ง คณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขึ้นมาจัดหาวัคซีนทางเลือก โดยมีศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีต รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน แต่ไม่มีชื่อของอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.สาธารณสุขอยู่ในกรรมการชุดนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตาม ว่าเรื่องของวัคซีน รัฐจะเร่งการฉีดให้เพิ่มมากขึ้นได้มากน้อยขาดไหน ท่ามกลางสมรภูมิการสู้รับกับเชื้อโควิดที่ยืดเยื่อมากขึ้นทุกขณะ!

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube