ไม่เคอร์ฟิว!…เปิดตี4ปิด5ทุ่ม ต่างกันตรงไหน(click ดูวิดีโอ)
ชัดเจนแล้วมาตรการใหม่ของ ศบค.ในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ที่จะมีผลตั้งแต่กลางดึกคืนนี้ 18 เม.ย. เป็นต้นไป เลือกเซฟระบบเศรษฐกิจ ด้วยการ ไม่ล็อกดาวน์เหมือนครั้งสมุทรสาคร และไม่ประกาศเคอร์ฟิว เหมือนการระบาดครั้งแรกเมื่อปีก่อน นั่นแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลและ ศบค.นำเอาประสบการณ์ที่แสนจะช้ำ มาเป็นบทเรียนในการแก้ปัญหา ไม่ยอมพลาดซ้ำรอยอดีต ที่พอมีการระบาดใหญ่แล้วประกาศมาตรการที่รุนแรง และเด็ดขาดในทันที จนส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง และยากที่จะฟื้นคืนดังเดิมได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยออกมาตรการคุมเข้มปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคทั่วราชอาณาจักร อย่างน้อย 14 วัน และกำหนดพื้นที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดแทน แบ่งเป็น18 จังหวัดควบคุมสูงสุด สีแดง และ 59 จังหวัด เป็นพื้นที่ควบคุมสีส้ม ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่ สีส้ม และสีแดง ก็จะมีข้อห้าม ข้อกำหนดที่ต่างกัน เพื่อให้กระทบกับการทำมาหากินของประชาชนน้อยที่สุด
สำหรับที่มาตรการที่ออกมา ทั้งพื้นที่สีแดง และสีส้ม มีข้อกำหนดที่เหมือนและแตกต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อย โดย 18 พื้นที่คสบคุมสูงสุดนั้นจะห้ามทำกิจกรรมเสี่ยงติดเชื้อได้แก่ ห้ามเปิดกิจกรรมการเรียนการสอน สัมนา อบรม หรือสอบ โดยมิได้รับอนุญาต,ห้ามทำกิจกรรมรวมกลุ่มกันเกิน 50 คนโดยมิได้ขออนุญาต, ปิดสถานบริการสถานที่เสี่ยงโรคทั่วราชอาณาจักร ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด 14 วัน,ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เปิดได้ถึง 23.00 น. แต่สามารถนั่งรับประทานหรือดื่มในร้านได้แค่ 21.00 น. ,งดนั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน,ห้าง เปิดได้ถึง 21.00 น.งดเว้นกิจกรรมส่งเสริมการขาย สวนสนุก ตู้เกม,ซุปเปอร์มาเก็ต ตลาดนัด ถนนคนเดิน ร้านสะดวกซื้อ เปิดตี 4 ปิดไม่เกิน 23.00 น.,สนามกีฬา ยิม ฟิตเนส ปิดไม่เกิน 21.00 น.
ส่วนพื้นที่สีส้ม จะห้ามแค่ ร้านอาหารเครื่องดื่ม ร้านกาแฟ นั่งได้ถึง 5 ทุ่ม แต่ห้ามนั่งดื่มสุรา และห้างสรรพสินค้าเปิดได้ถึง 3 ทุ่ม เท่านั้น ส่วนการเดินทางทั้ง 2 โซนสี ก็แค่ขอความร่วมมือให้ประชาชนงดหรือชะลอ หากไม่มีเหตุจำเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลและ ศบค.จะไม่ประกาศเคอร์ฟิวแต่การกำหนดปิดสถานบริการสถานที่เสี่ยงโรคทั่วราชอาณาจักร ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด 14 วัน และให้พื้นที่สีแดง ปิดร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ แค่ 5 ทุ่ม รวมถึงปิดร้านสะดวกซื้อ 5 ทุ่ม และให้เปิดได้ตอนตี 4 ก็แทบไม่ต่างจากการเคอร์ฟิว ที่ห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่อย่างใด มีผลแค่ทางจิตวิทยาเท่านั้น เพราะเมื่อไม่มีร้านใดเปิด ทุกคนก็ย่อมต้องกลับบ้าน เพราะไม่สามารถไปยังสถานที่อื่นๆได้ แต่การคุมเข้มเฉพาะพื้นที่สีแดงเท่านั้น และค่อนข้างเบามือกับสีส้ม เพื่อหวังผลทางเศรษฐกิจนั้น จะได้ผลหรือไม่ 2 สัปดาห์คงเห็นผล ศบค.จะประเมินสถานการณ์ และปรับเปลี่ยนต่อไป หากดีขึ้นก็ผ่อนคลายอีก แต่หากยังระบาดรุนแรงก็จะปรับเข้มขึ้น โดยมอบอำนาจให้ ผู้ว่าฯ พิจารณาตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ สั่งปิดทุกอย่างได้ทันทีตามเหตุผลสมควร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
