“เสรีพิศุทธ์” ก่อนหัก “ทักษิณ” เคยลั่นเกิดมารับใช้ “เพื่อไทย”
ตึงสุดไม่มีแผ่วจริงๆ “ทักษิณ ชินวัตร” ศูนย์รวมจักรวาลอำนาจ ณ ขณะนี้ ที่ออกมาโต้บิ๊กตู่ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” กรณียื่นเอกสารลับชั้น 14 ให้กับผู้นำฝ่ายค้านนั้น ว่า ตนเป็นตำรวจเก่า รู้จักแต่ พลตำรวจเอกที่เป็นผู้ชาย พลตำรวจเอกผู้หญิง ผมไม่รู้จัก พลตำรวจเอกหญิงไม่มี เลยไม่รู้จัก ในประเทศไทยมีแต่ พลตำรวจเอกชาย ใครอยากเป็นคนแรกก็เป็น” ส่วนจะหมายถึงคนที่ยื่นเอกสารให้กับผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่นั้น ทักษิณ ตอบสั้นๆ ว่า “ไม่รู้นะ ผมเป็นลูกผู้ชาย”
ขณะที่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ออกมาโต้กลับทันควันว่า” ตนเองเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รู้ว่าพยานหลักฐานใดควรจะเปิดเผย หรือไม่เปิด ในเรื่องคดีความต่างๆ ควรจะเปิดกับผู้มีหน้าที่ เช่น คณะกรรมการสอบสวน ของ ป.ป.ช. หรือแพทยสภาต่างๆ ไม่มาเปิดอย่างนี้หรอก ผมร้องเพื่อทำกิมมิค ก็ทำไปแค่นั้นเอง ทักษิณไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว และก็ไม่ได้เป็นตำรวจหญิง เป็นแค่พันตำรวจโท เรื่องแบบนี้จะมาสู้อะไรกับตนเอง แต่ถ้าเรื่องธุรกิจ เรื่องทุจริต สู้เขาไม่ได้หรอก”
จากนั้น พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ย้ำหัวหมุดอีกว่า” ความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนายทักษิณ ไม่ได้มีอะไรต่อกันตั้งนานแล้ว เขาเป็นคนตระบัดสัตย์ ไม่ได้มีความจริงใจ หักหลังใครได้ก็หัก ลูกน้องติดคุกหมด แม้แต่ตัวเขายังติดคุกเลย ขอสื่อมวลชน อย่าไปสนับสนุนพรรคการเมืองที่ประพฤติไม่ชอบ ดีแต่ปาก อ้างทำเพื่อประชาชน ไม่เห็นประเทศชาติเจริญ มีแต่ประชาชนจนลง แล้วปากบอกทำเพื่อประชาชน ปัดโถ่เอ้ย อยากตบปากกันให้หมด ของปลอมทั้งนั้น อย่ามาลอยหน้าลอยตา”
สำหรับคู่นี้ แต่ก่อนรักใคร่กันดี อย่าง15 ส.ค. 2567 ห้วงที่พรรคร่วมรัฐบาลมีมติเสนอชื่อ แพทองธาร เป็นนายกฯ คนที่ 31 ทาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุ ว่า พรรคเพื่อไทยเสนอใครเราต้องสนับสนุน เพราะเราร่วมรัฐบาล ผมเกิดมาต้องรับใช้พรรคเพื่อไทย รัฐบาลที่แล้วให้ผม 300 ล้านบาท ให้ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี ผมยังไม่เอาเลย เลือกตั้งใหม่ก็สนับสนุนเพื่อไทย ผมต้องสนับสนุน เพราะรู้จักกับ ทักษิณ มาตั้ง 50 ปี ตั้งแต่ แพทองธาร ยังไม่เกิด และไม่ว่าจะเป็นใครก็สนับสนุนทั้งนั้น
หรือจะเป็นช่วงก่อนทักษิณกลับไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงทักษิณว่า “ตอนเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ท่านสอบได้ที่หนึ่งของรุ่นนะ หรือลาออกจากราชการมาประกอบธุรกิจก็ประสบความสำเร็จ ตอนนี้อายุขนาดนี้ ประสบการณ์ขนาดนี้ไป ต่างประเทศยิ่งเห็นมากมาย ไปทำธุรกิจเยอะแยะ จะได้นำความรู้เข้ามาช่วยในการบริหารประเทศได้ กลับมาดี แต่อาจมีกติกาแค่นั้นเอง”
แต่ต่อมาบาดหมางรุนแรง มีการแฉเบื้องหลังเบื้องลึกโดยเมื่อ 29 ส.ค. 2567พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ แถลงถอนตัวร่วมรัฐบาล ลั่นตัดสัมพันธ์ 51 ปี แฉยับ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ไม่เห็นหัว สมัยเป็นประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤตมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรขออะไรก็ช่วยตลอด พูดตลอดเป็นหนี้ตนเป็นพันครั้งต้องชดใช้ แต่พูดแล้วก็เฉยแม้กระทั่งตอนตนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็พูดว่าต้องตอบแทนแต่ก็เฉย ลืมตนทุกที ไม่รู้ว่าคิดอย่างไร
และเมื่อเร็วๆนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” เล่าถึงการไปเยี่ยมทักษิณที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยระบุครั้งแรกมีผู้ประสานงานพาเข้า-ออกผ่านลิฟต์และบันไดหนีไฟ จนถึงชั้น 14 โดยระบุว่าบนชั้นดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจสอบ และทักษิณแต่งกายสบายๆ สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ ขณะพูดคุยราว 1 ชั่วโมงไม่เห็นอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใดส่วนครั้งที่สอง ผู้ประสานงานแจ้งให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปเยี่ยมคนเดียว โดยครั้งนี้ทักษิณชวนไปห้องรับแขกที่สามารถมองเห็นสนามม้า มีการเสิร์ฟขนมและกาแฟ แต่ไม่ได้เข้าไปยังห้องพักผู้ป่วย
สำหรับ ทักษิณนั้น เขาจบที่โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 10 และโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 26 ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จบโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 8 และ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 24 นั้นเท่ากับเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องห่างกัน 2 ปี และเคยรักใคร่กันดี แต่ต้องมาหักหาญกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตในวันนี้ นั้นหรืออาจเป็นเพราะอำนาจมันหอมหวานแต่เคลือบยาพิษ ทำลายความสัมพันธ์ให้สะบั่นลงอย่างไร้เยื่อใย หรืออย่างไร!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews