15 ปี ขอคืนพื้นที่ 10 เมย.53 ปฐมเหตุความสูญเสีย
15 ปี “การปะทะแยกคอกวัว” 10 เม.ย.2553 คือวันแรกที่กองทัพเริ่มใช้กระสุนจริงในการเข้าควบคุมการชุมนุมคนเสื้อแดง ที่นำโดย 3 เกลอ ” วีระกานต์ มุสิกพงศ์ – ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ -จตุพร พรหมพันธุ์”
ซึ่งตั้งเวทีอยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ก่อนย้ายไปตั้งเวทีแยกราชประสงค์ในการกดดันให้รัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ยุบสภา การปะทะในวันนั้นที่สี่แยกคอกวัวฝ่ายรัฐบาลภายใต้วาทกรรม “ขอคืนพื้นที่” บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯยาวถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยรัฐบาลใช้บริการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.)ค่ายพรหมโยธี จ.ปราจีนบุรี หรือที่เรียกขาน “นักรบบูรพา” หรือ “บูรพาพยัคฆ์” เพราะเชื่อว่าสั่งง่ายกว่าหน่วยอื่น
เนื่องจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกลาโหม, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.,พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. รวมถึง พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ล้วนเป็นนายทหารที่เติบโตมาจาก “บูรพาพยัคฆ์”ด้วยกันทั้งสิ้น ปฏิบัติการครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ทหารโปรยแก๊สน้ำตาจากเฮลิคอปเตอร์จุดที่มีการปะทะและเสียชีวิตจำนวนมาก คือ ถนนดินสอและแยกคอกวัว ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 30 คน เป็นประชาชน 24 ทหาร 5 และสื่อมวลชนต่างชาติอีก 1 บาดเจ็บสองฝ่ายรวมกันกว่า 860 คน “อภิสิทธิ์” กลายเป็นผู้ถูกกล่าวหา “นายกฯ มือเปื้อนเลือด” สื่อต่างประเทศระบุเป็นเหตุการณ์เลวร้ายมากที่สุดของการเมืองไทยนับจากเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535เป็นต้นมา ก่อนจะมีสลายม็อบรายประสงค์ ในเวลาต่อมา
เบื้องต้น มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยช่วงแรกของรายงานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ระบุกองทัพจำเป็นต้องใช้กระสุนจริงเพื่อตอบโต้”ชายชุดดำ” ที่ใช้อาวุธสงครามแฝงตัวอยู่ในสถานที่ชุมนุมบนถนนราชดำเนิน แต่ภายหลังมีรายงานอีกชุดของศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมว่ามีประชาชน ถูกยิงด้วยกระสุนจากฝั่งเจ้าหน้าที่ตั้งแต่บ่ายสามก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเช้ามืดวันถัดมา
ส่วนประชาชนอีกกว่า 20 คน เสียชีวิตจากปฏิบัติการของทหาร บริเวณสี่แยกคอกวัว ส่วนฝ่ายทหาร 5 นายมี พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม กับพวก ถูกยิงด้วยกระสุนเอ็ม 79 บริเวณถนนดินสอ ข้างโรงเรียนสตรีวิทยาจนเสียชีวิต ซึ่งจากเหตุปะทะดังกล่าว สร้างความบอบช้ำให้ระบอบประชาธิปไตย เป็นอย่างมาก จนกลายเป็นความเกลียดชัง แตกแยกในสังคมมาอย่างยาวนาน การสลายการชุมนุม ทำให้ “อภิสิทธิ์” และ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ถูกฟ้องจากการสลายการชุมนุม แต่คดีมีทั้งถูกตีตก และยกคำร้อง ส่วนคดีชายชุดดำ ได้มีการยกฟ้องจำเลยในปี 2564
จนถึงวันนี้ 15 ปีแล้ว ข้อเท็จจริงทั้งหมด ของเหตุการณ์แยกคอกวัว ก็ยังไม่สะเด็ดน้ำ แกนนำเสื้อแดงที่เคยพยายามเดินหน้าหาความจริง ทวงคืนความยุติธรรมให้มวลชน เอาคนผิดมารับโทษก็เปลี่ยนไป 3 เกลอในอดีต เหลือแค่ “ณัฐวุฒิ” ที่ยังมีบทบาท และเคลื่อนไหวกับเสื้อแดงอย่างเข้มข้นผูกโยงกับพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลในปัจจุบัน ได้นัดหมายร่วมรำลึกเหตุการณ์ 10 เม.ย.53ทำบุญอุทิศให้เพื่อนผู้จากไป ให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิต สนทนาบอกเล่าวาระที่เป็นเป้าหมายร่วมกันที่ถนนดินสอฝั่งโรงเรียนสตรีวิทยา ตั้งแต่ 16.30 น .เป็นต้นไป
ส่วน”วีระกานต์” ซึ่งเฟดตัวลง เพราะอายุที่มากขึ้นก็จะมาร่วมด้วย ขณะที่ “จตุพร” พลิกไปอยู่อีกขั้ว และกำลังนำมวลชนต่อต้านรัฐบาลเพื่อไทยในประเด็น ร่างพรบ.สถานบันเทิงครบวงจร ที่จะให้มีการเปิดกาสิโน ในประเทศไทยจะเห็นได้ว่า เวลาผ่านไปหลายๆอย่างก็ไม่เหมือนเดิม เหลือไว้เพียงความทรงจำ แต่การต่อสู้ ขับเขี้ยว แย่งชิงทางการเมืองก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม แค่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบไปบ้างก็เท่านั้น….
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews