ยอดดับตึกสตง. ถล่มพุ่ง 44 ราย จ่อเยียวยา 1 แสนบาท
น.ส.ทวิดา กมลเวช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ผู้อํานวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยความคืบหน้าการรื้อถอนและค้นหาผู้สูญหายภายใต้ซากอาคารตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินพังถล่ม
ว่า จากการพยายามลดความสูงและเข้าค้นหาในทุกโซนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทําให้พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ชิ้นเนื้อ 24 ชิ้น ส่งพิสูจน์อัตลักษณ์และล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางพิสูจน์หลักฐานได้ยืนยันผลพิสูจน์อัตลักษณ์เพิ่มอีก 1 ราย ทําให้ปัจจุบันจํานวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 44 ราย บาดเจ็บ 9 สูญหาย 50 คน จากจํานวนผู้ประสบเหตุทั้งสิ้น 103 คน ขณะนี้ทุกอย่างถือเป็นไปตามแผนที่ แต่มีอุปสรรคคือลวดเหล็กที่มีจํานวนมาก ซึ่งต้องใช้เครื่องเข้าไปตัดเนื่องจากรถใหญ่บางคันไม่สามารถตัดได้
สําหรับการพิสูจน์อัตลักษณ์ รองผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่าจากรายชื่อทั้ง 103 คน ที่ได้มาจากสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง มีญาติที่เข้ามาตรวจ DNA จํานวน 91 คนแล้ว แต่ยังมีรายชื่อที่ตกหล่นอยู่ ซึ่งไม่เป็นปัญหาเนื่องจากประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศในการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์เพิ่มจากชายแดนของสถานทูตเมียนมา ส่วนเรื่องการเยียวยาล่าสุดทางกระทรวงมหาดไทยได้เพิ่มวงเงินในการจัดการศพ รายละ 100,000 บาท โดยที่ไม่ต้องคิดในรายละเอียดว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวหรือไม่ โดยกําหนดจ่ายล็อตแรกที่ได้รับการรับรองแล้วในวันที่ 18 เมษายนนี้ ที่กระทรวงมหาดไทย
ขณะที่ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันกับกิจการร่วมค้า PKW ที่ลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ที่พังถล่ม กับทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และนำหมายไปติดไว้ที่บ้านในพื้นที่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด เพื่อให้เข้ามาให้ข้อมูลฐานะพยาน ซึ่งเบื้องต้นมีการประสานขอเลื่อนพบเป็นวันที่ 30 เมษายนนี้ แต่ทางตํารวจแจ้งให้มาเร็วกว่านั้นแต่ยังไม่ระบุวัน
ส่วนกรรมการคนดังกล่าวจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมลายเซ็นต์และแอบอ้างชื่อของวิศวกรหรือไม่นั้นต้องรอสอบปากคำก่อน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews