“โควิดอินเดีย”หลอน “วัคซีนลุง”พุ่ง
@เหมือนเป็น“เคราะห์ซ้ำกรรมซัด”หรือ“วิกฤตในโอกาส” กับจู่ๆ“โควิดพันธ์อินเดีย”ที่ เป็นสายพันธุ์อันตรายที่สุดยามนี้อย่างที่“หมอธีระวัฒน์”จากจุฬาฯ บอกว่าทั้งดุทั้งฉลาดแพร่กระจายง่ายกว่า และลงปอดเร็วกว่า “สายพันธุ์อังกฤษ” เท่าตัว ยิ่งมีภาพ “คนอินเดีย” ป่วยล้มตายกว่า 2.4 แสนรายอย่างรวดเร็ว ก็ยิ่งน่ากลัว
โดย ศบค.ระบุว่าได้ตรวจพบเชื้อ “โควิดสายพันธุ์อินเดีย”ติดมากับผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 42 ปี ที่เดินทางกลับจากปากีสถานพร้อมบุตรชาย 3 คน เป็นผู้ป่วย 2 รายแรกของประเทศไทย แต่ข้อมูล ศบค.ยังไม่มีการบ่งชัดว่า 2 รายนี้ โยงกับ“ทริปเที่ยวบินอินเดีย”ที่เข้ามาผ่านสุวรรณภูมินับสิบและในช่องทางอื่นๆ หลายวันก่อนก่อนหน้านี้หรือไม่ยังไง
@โดย“โควิดอินเดีย”มาในจังหวะที่“ลุงตู่”และ“หมอ”ถูก“หน้างาน”บังคับ กับสถานการณ์ระบาดหนัก จน“หมอโหลด” ต้องชูให้“วัคซีนโควิด”2ยี่ห้อที่มีเป็น“พระเอก”เป็นทางออกสุดท้าย ที่จะ“ต้องเร่งฉีดวัคซีน”แบบปูพรม เพื่อสกัดอาการ“ไฟลามทุ่ง” ที่วันนี้ยอดยังคงพุ่งเสียชีวิต 34 สะสม 486 ป่วยเพิ่ม 1,983 สะสม 88,907 รักษาหาย 2,006 ราย จนทั้ง“ลุง”ทั้ง“หมอใหญ่”ต้องช่วยกัน“บิ๊ว”ให้“ผู้คน” “คิดเอง”ว่าจะเลือกทางไหน ระหว่าง “หมอไม่รับเย็บ” รอตายกับเชื้อโควิด ที่ยิ่งทอดเวลายิ่งพัฒนาสายพันธุ์ หรือ“หมอรับฉีด”ขอให้คนช่วยฉีดวัคซีนเพื่อชาติ สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ แบบที่ติดมาก็ยังพอประวิงเวลารักษาได้
@ที่ก็อย่าลืมว่า การเร่งฉีดวัคซีน ที่มีหลายฝ่ายเสนอให้นายกฯ ศบค. ปรับแผนใหม่ ให้นำวัคซีนเข้าไปฉีดในพื้นที่เสี่ยงสูงอย่างเช่นเคส“คลัสเตอร์คลองเตย”และอีกหลายชุมชนกรุงเทพฯที่มีการ“ตรวจเชิงรุก”เข้าไปตัวเลขติดเชื้อเลยสูงวันละ 2 พันคน แบบ ไม่ต้องมารอ กลุ่มที่2 “คนชรา”และ“7โรคร้ายแรง”ที่ต่อจากกลุ่ม“บุคลากรทางการแพทย์”ที่ยอดจองผ่าน“หมอพร้อม”ล้มเหลว มีเพียง 1.6ล้าน จากยอดรวม 16 ล้านคน นั้น ส่วนหนึ่งมีการนำเข้าไปฉีด“กลุ่มเสี่ยง” อย่างที่“ลุงตู่”บอกว่ามีการลุยเข้าไปฉีดวัคซีนใน “ชุมชนคลองเตย”และหลายชุมชนวันละ2พันตอนนี้ฉีดไปแล้วนับหมื่น รวมถึงวันนี้(12พ.ค.)ที่นายกฯไปเปิดสถานที่ฉีดวัคซีนตามที่เอกชนร่วมมือ ที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวเป็นการชิมลางจาก 25 แห่งที่จะเปิดเป็นจุดฉีดวัคซีน หลังจากเมื่อวาน(11พ.ค.) นอกจากการเริ่มให้ “สวดมนต์ไล่โควิด”ยังมีการประกาศให้การระดมฉีดวัคซีนเป็น“วาระแห่งชาติ”ที่ทำให้วันนี้ดันยอดการจองพุ่งมาที่ 2.1ล้านราย
@เรียกว่าดูทรง “กระแสความกลัว” “โควิดอินเดีย”กับภาพตรงหน้าของการระบาดเร็วแรงของ“โควิดสายพันธ์อังกฤษ์”เมื่อมาประกอบกับการออกมาช่วยพูดของ “3อาจารย์หมอใหญ่”เมื่อวานขอให้ทุกคนรีบฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง รวมถึงมีการออกมาประกาศผลรับรอง“แอสตร้าเซเนก้า”เมื่อวานจากองค์กรระดับโลก ดูจะทำให้ผู้คนเริ่มหันกลับมาพร้อมจะเสี่ยงฉีดวัคซีนแบบที่พร้อม“วอล์คอิน”และเริ่มมีการเสนอให้“ลุงตู่”รีบลัดคิวนำเข้ามาฉีดให้ทุกคน
@ที่ในทางการเมือง แม้จะมองสถานการร์คล้ายเหมือนฉากเก่ามุกเดิมในโควิดภาค 1 และ2 ที่ยามจวนตัว นอกจาก“หมอหนู”จะรับไปแล้ว“ลุงตู่”มักจะใช้บริการ“หมอใหญ่”มาช่วยพูด เพื่อกลบภาพ“ความไม่เชื่อมั่น”จากกระบวนการจัดการที่ถูกประเมินว่า“รัฐบาล”ล้มเหลวและ “คนกันเองในรัฐบาล”เป็น “ต้นเหตุ”การการระบาดไม่ว่าจะเป็น โควิดภาค1สนามมวยของทบ. ภาค2บ่อนแรงงานเถื่อนที่ยิงตรง“ตลาดกลางกุ้งมหาชัย” จนมาถึงภาค3จาก“คลัสเตอร์ทองหล่อ”ที่ยิงตรงถึง“ทำเนียบฯ”ซึ่งในทุกภาคมีปัญหาการจัดการ จนมาถึงครั้งนี้ที่กระแสแรง เพราะมีคนตายจำนวนมากและรวดเร็วอย่าง เช่นเคสตลกดัง“ค่อมชวนชื่น”
โดยพบว่า อีกส่วนสำคัญยัง มีปัญหาการบริหารจัดการ การประเมินสถานการณ์รองรับ เรื่อง“วัคซีน”ที่ล้มเหลว หลังถูกครหาเรื่องการ“ผูกชาด2ยี่ห้อ”จนเกิดปัญหาปลายทางเมื่อถึงเวลาวิกฤติ ที่กลายมาเป็นเรื่องของ“ความเชื่อมั่น”ใน“ลุงตู่”จนต้องให้เอกชนเข้ามาช่วยแบ่งเรื่องการจัดการจัดหาและกระจายวัคซีนแต่ก็ยังมี“กิ๊กกั๊ก”จนเกิดปัญหาก่อนมา“โป๊ะแตก”ที่“แอฟหมอไม่พร้อม”ที่สวนทางกับ“โควิด”ที่พร้อมกว่า
@ทำให้ถึงที่สุดก็ต้องขอให้“ด่านหน้า”ที่กำลังล้าข้ศึก อย่าง“คุณหมอ”ต้องมาช่วยพูด ทำนองว่า“ภาวะวิกฤต”ตรงหน้า จำเป็นต้องฝ่าไปให้ได้ก่อนค่อกลับมาเช็คบิลกันทีหลัง อย่างที่“หมอสมศักดิ์ เทียมเก่า” อายุรแพทย์ ระบบประสาท ที่จั่วหัวทำนอง ใครไม่ชอบรัฐบาล ไม่อยากเชื่อใคร แต่อยากให้เชื่อมั่นว่าโควิดวัคซีน ฉีดดีกว่าไม่ฉีดแน่นอน มาฉีดกันเถอะ โดยมองว่า การจัดการเรื่องรักษาผู้ป่วยและวัคซีนโควิด-19 ที่ผ่านมา อาจเกิดจากความผิดพลาดของหน่วยงานภาครัฐ แต่ช่วงนี้ไมใช่เวลาที่เราจะมาทะเลาะกัน คนไทยทุกคน ถึงเวลาที่ต้องร่วมแรงร่วมใจ และร่วมมือกัน ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ใครทำอะไรได้เพื่อส่วนรวม ก็ควรช่วยกัน ถ้าประเทศรอดเราก็รอด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news