โควิดแอฟริกาVsวัคซีนลุง
โควิดแอฟริกาVsวัคซีนลุง
@ความวัวจาก”โควิดสายพันธุ์อินเดีย”ที่ว่าดุร้ายรุนแรงเข้ามาเมื่อวันศุกร์(21พ.ค.) ไม่ทันหาย ความควาย จาก “โควิดสายพันธุ์แอฟริกา” ที่ดุร้ายรุนแรงยิ่งกว่า เพราะยังไม่มีวัคซีนตัวไหนเอาอยู่ได้แบบชะงัด ก็เข้ามาแทรกเมื่อวันเสาร์(22พ.ค.) ชนิดเพียงข้ามวัน แบบที่ทำให้สถานหน้างาน ในการไล่ปูพรมฉีดวัคซีนของ”ลุงตู่”ที่วันนี้พา ครม. ไปรับการฉีดโชว์ เข็มที่สอง ที่ต้องทำ ในอัตราเร่งอยู่แล้ว ก็ยิ่งเหมือนต้อง”เร่งสปีด”มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว…โดยต้องทำแบบ”คู่ขนาน”ไปกับการเตรียมรับมือการระบาดที่กลับมาพุ่งขึ้นโดยวันนี้ยอดติดเชื้อ 2,713 ในคุก 206 สะสม 132,213 ราย ตาย 30 สะสม 806 โดย มีคลัสเตอร์ใหม่ๆเกิดขึ้นทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด พร้อมๆกับ อาการ”กลับมาหลวม” ของหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งก.มหาดไทย แรงงาน ฝ่ายความมั่นคง
@ที่ทำให้เกิด”รูรั่ว”การเข้ามาของ”แรงงานต่างด้าว”การหลบหนีเข้าเมือง การลักลอบทำผิดกฎหมาย ที่ไปปรากฎที่ปลายทาง ทั้งในหลายแคมป์คนงานกลางเมืองหลวงกรุงเทพฯ ไม่แต่แค่แคมป์คนงานหลักสี่ของอิตาเลียนไทยทั้งในโรงงานต่างๆ เช่นคลัสเตอร์โรงงานเขาย้อย และ คลัสเตอร์ฉะเชิงเทรา ไม่นับรวมปัญหาการลักลอบของสถานบริการและบ่อนวิ่งที่เริ่มกลับมา ที่เป็นผลส่วนหนึ่ง ที่ทำให้”โควิดพันธุ์อินเดีย”และ”โควิดแอฟริกา”ที่หมอบอกว่าเป็น”โควิด”ระดับ”ตัวพ่อ”เพราะดื้อยาดื้อวัคซีน ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านพม่า มาเลเซีย หลุดรั่วเข้ามาในประเทศไทยได้ จน”ลุงป้อม”ต้องออกมาย้ำให้ฝ่ายเกี่ยวข้องจริงจังกันอีกรอบเรื่องการหลบหนีเข้าเมือง
@ที่แม้”ลุงตู่”จะยืนยันว่าวัคซีนที่ไทยมี ทั้ง แอสตร้าซิเนกาและซิโนแวค รวมถึงวัคซีนยี่ห้ออื่นๆที่จะมีเข้ามามีประสิทธิภาพ ปลอดภัยป้องกัน โควิดฯสายพันธุ์ใหม่ได้ โดย ประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องได้ฉีดวัคซีน ขออย่าบิดเบือนและขอให้ฟัง หมอ ในระบบ ชี้แจง แม้จะมีหมอหลายคนพูดด้วยความหวังดี แต่อาจทำประชาชนสับสน ขอให้ฟังหมอ ในระบบ อย่าบิดเบือน แต่ก็ขอ อย่าประมาท อย่าตื่นตระหนัก กับ โควิดฯ สายพันธ์อินเดีย -แอฟริกาใต้ ซึ่งในพื้นที่ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ขอให้ดูแลตัวเอง ใส่แมสก์ ล้างมือ ตามหลักการ สธ. แต่ดานหนึ่ง ต้องยอมรับว่า การเข้ามาของโควิด2 สายพันธุ์ล่าสุด โดยเฉพาะ”สายพันธุ์แอฟริกา”สร้างความไม่สบายใจให้กับแวดวงหมอไม่น้อย
@ยิ่งเมื่อหันมาดูสภาพ”หน้างาน” ทั้ง”การตั้งรับ”และ”รุก” ตั้งแต่ภาพการเปิดโรงพยาบาลสนาม เตียงสนามรองรับ และรวมถึงการเดินหน้าปูพรมวัคซีน ที่เมื่อไปดู”ไส้ใน”ยังมีหลายจุดที่ต้องปรับกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เปลี่ยนไปจากปกติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง”วัคซีน”แม้”ลุงตู่”และ”หมอ”จะ”ตีฝ่า”เรื่องความกลัว”เอฟเฟ็กต์วัคซีน”และ”วัคซีนไม่ให้เลือก”มาได้ด้วยการบอกว่า”วัคซีนที่ดีสุดคือฉีดไวที่สุด”และเปิดให้มี”วัคซีนทางเลือก” โดย มีการให้”ดารา”ออกมาช่วยบิ๊กอารมณ์ จนคนเริ่มแห่ลงทะเบียนจองฉีด แต่ก็ยังเกิดปัญหาการจัดการกับอาการยึกยัก”วัคซีนวอล์คอิน”กลายเป็น”วัคซีนการเมือง” แม้จะอ้างเพราะกลัววุ่นวายเพราะ”วัคซีน”ที่มีอยู่ยังไม่มากพอรองรับการต้องจัดให้กลุ่ม1 บุคลากรทางการแพทย์ กลุ่ม2 ผู้สูงอายุ และ 7 โรคเสี่ยง รวมถึง กลุ่มคนทำงานเสี่ยง และกลุ่มฉุกเฉิน กลุ่มผู้คนกลุ่มเสี่ยงที่อยู่กลาง”คลัสเตอร์”การระบาดที่ต้องเข้าไปฉีดปูพรมแบบชุมชนคลองเตย หรือคลัสเตอร์หลักสี่ ที่ยังพบว่ามีปัญหา การจองใน”แอปหมอพร้อม” จนกลายเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายเริ่มเป็นห่วงจะเกิดความคลาดเคลื่อนนัดส่งมอบวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่จะเข้ามาต้น มิ.ย. 6 ล้านโดส และทยอยเดือนละ 10 ล้านโดส ไม่นับรวมการเรียกร้องให้มีการปรับแผนหาวัคซีนให้เร็วขึ้นและความชัดเจนใน”แผนการกระจายฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด” ที่ยังมีความ ”ย้อนแย้งกัน” กับจำนวนที่มีอยู่
@เรียกว่าภาพปัญหาการจัดการของ”ลุงตู่”ที่รับหน้าเสื่อรับผิดชอบแต่ผู้เดียวในสถานการณ์ที่ยังไม่ดีขึ้นแถมทำท่าว่าจะน่าห่วงกับสถานการณ์ใหม่ ทำให้ภาวะกลัวเจ็บตายและกลัวหิว ของผู้คน นอกจากจะทำให้ความรู้สึกเริ่มแกว่งไกวกังวลไม่มั่นใจ ยัง กลายเป็นความไม่พอใจ ยิ่งมาผนวกกับความเคลื่อนไหวของ ”ฝ่ายการเมือง” ทั้ง ”ฝ่ายคนกันเอง” และ ”ฝ่ายตรงข้าม” ที่ออกมาซ้ำเติม”ลุง”ก็ยิ่งทำให้เกิด”การตรวจสอบ”การทำสงครามโควิดของลุงเข้มข้นไปอีก ชนิดว่ายิ่งให้กระทรวงดีอีเอส.ออกมา ”จัดหนัก” ไล่ดำเนินคดี กับผู้คนใน ”โซเชียล” ที่ตรวจสอบเรื่อง”วัคซีน”ว่าเป็นพวกบิดเบือน ก็ยิ่งกลายเป็นการถูกเรียกร้องให้รัฐบาลอย่าปกปิดสถานการณ์ความเป็นจริงกับประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news