ชิมลางจอง”วัคซีนกทม.”ไม่เก้อ
ชิมลางจอง”วัคซีนกทม.”ไม่เก้อ
@จำต้องปรับกระบวนท่า“รับมือ”กับกระแส“วัคซีนทิพย์”ที่ชักแรงขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็น“ความไม่เชื่อมั่น”ในการบริหารจัดการสถานการณ์ศึกโควิดที่วันนี้ยอดตายเจ็บยังพุ่งแรง ตาย 47 ป่วยเพิ่ม 3,323 สะสม 141,217 ราย ในโหมด“หน้างาน”ยุทธวิธี ปูพรมฉีดวัคซีนเพื่อสกัดการระบาด ของ“ลุงตู่” ที่จะ“คิ๊กออฟ”เป็น“วาระแห่งชาติ”วันที่ 7 มิ.ย. ที่วันนี้ กรุงเทพมหานคร เริ่ม“โหมโรง”เปิดลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน โครงการไทยร่วมใจ แสดงความประสงค์เพื่อเข้ารับบริการวัคซีนโควิด-19 ผ่านค่ายมือถือ และ “แอปเป๋าตังค์” รวมถึง ลงทะเบียนผ่าน ร้านเซเว่น ที่มีผู้คนแห่ลงทะเบียนแน่น
แม้ว่าหลายฝ่ายจะยังกังวลและลุ้นว่าถึงวันที่ได้คิวฉีดจริง หากประชาชนไปรอฉีด จะเก้อหรือไม่ หลังจากเกิดปัญหาความคลุมเครือ”การจัดหาวัคซีน”โดยเฉพาะตามคิว เดือน มิ.ย.จะมีการส่ง“วัคซีน”ของแอสตราเซเนกา 6 ล้านโดส และเดือนละ 10 ล้านโดสให้รัฐบาลกระจายฉีด ที่กลับกลายเป็นว่ามีความไม่แน่นอนขึ้น หลังหลายโรงพยาบาลระดับโรงเรียนแพทย์ออกมา ออกมาบ่นดังว่าสงสัยจะถูกเท และประกาศขอเลื่อนการฉีดเข็ม2 เพราะต้องรอวัคซีนจากรัฐบาล
@สถานการณ์กลับกลายเป็นว่า วัคซีนทำท่าจะไม่พอ เพราะการบริหารจัดการยังสับสน โดยล่าสุดมีการสั่งชะลอการใช้แอฟหมอพร้อมในการจองฉีดวัคซีน โดยให้แต่ละจังหวัดไปทำระบบเอง ที่เป็นการ ย้ำ ภาพหลอนเดิม จากครั้งที่ “หมอหนู” บอกให้ประชาชนวอล์กอินมาฉีดวัคซีนกันได้เลย ก่อนที่ “ลุงตู่” จะมาสั่งยกเลิก ไม่นับรวม ปัญหาการจัดสรรวัคซีนที่ลักลั่น แม้แต่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ พรรคหลักรัฐบาลยังออกมาโวย เรียกร้องให้นายกฯและคณะกรรมการจัดสรรวัคซีนแห่งชาติ รื้อแผนกระจายวัคซีนที่กำลังจะเข้ามาอีกประมาณ 6 ล้านโดส ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตรงหน้า ยิ่งกระแสมาในจังหวะที่“ฝ่ายการเมือง”ในนอกสภาจ้องถฃ่ม“ลุงตู่” ที่ “ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”ก็ยิ่งทำให้เรื่อง“การบ้าน”ถูกรวมเข้ากับ“การเมือง”
@ที่ว่ากันว่า ก่อนจะเกิดภาพของการชะลอการจองผ่าน“หมอพร้อม”และกรณี ราชกิจจานุเบกษา ประกาศราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ว่าด้วยการให้บริหารทางการแพทย์และการสาธารณสุขในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 และสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ โดยมี เนื้อหาสำคัญคือ ให้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะมีอำนาจ ในการนำเข้าวัคซีนโควิดโดยไม่ต้องผ่านราชการ
โดยจะมีการนำเข้าวัคซีนชิโนฟาร์ม เข้ามาเป็นวัคซีนตัวที่ 3 จากที่มีเพียง ชิโนแวค และ แอสตราเซเนกา ที่วันพรุ่งนี้(28พ.ค.) จะมีการแถลงโดย“หมอนิธิ”และ“หมอหนู”นั้น ..มีรายงานว่า ในการประชุมศบค.ทั้งเล็กใหญ่ วันอังคาร..ในวาระ มีเรื่องที่ ประธาน แจ้งที่ประชุมเพื่อทราบ ว่า ๐เนื่องจากเป็นที่วิจารณ์เรื่องวัคซีนในสื่อจำนวนมาก นายกฯจึงขอให้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและอธิบดีกรมควบคุมโรค พิจารณาการจัดสรรวัคซีนอีกครั้ง โดยรับคำแนะนำของสังคมและภาคส่วนต่างๆ มาพิจารณาด้วย เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมนำเรียนนายกฯเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป”
@นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งในที่ประชุม ด้วยว่า การลงทะเบียนฉีดวัคซีนในภาพรวมทั้งประเทศนั้น ศบค. ไม่ประสงค์ให้เกิดข้อขัดของในระบบหมอพร้อม ซึ่งมีการลงทะเบียนเป็นจำนวนมากพร้อมกันทั่วประเทศ จึงได้ให้แต่ละจังหวัดคิดระบบการลงทะเบียนของจังหวัดเองด้วย เพื่อช่วยเสริมการลงทะเบียนของระบบหมอพร้อม
ซึ่งเมื่อได้ประกาศวาระแห่งชาติ ในวันที่ 7 มิ.ย.แล้ว ข้อมูลการฉีดวัคซีนทังหมดจะถูกบันทึกลงในระบบหมอพร้อม เพื่อใช้ในการดูแลประชาชนในด้านสาธารณสุขต่อไป เท่ากับว่ามีการ ลดบทบาทหมอพร้อมในเรื่องการจองคิวฉีด…และให้แต่ละ จังหวัดไปคิดระบบ การจองคิวฉีดของตัวเองมาและ ให้รื้อการจัดสรรโควต้าวัคซีนใหม่ ที่ก็สอดรับกับที่“หมอทวีศิลป์”แจ้งเมื่อวาน(26พ.ค.) ว่านายกฯ ขอให้ ชะลอเรื่องการลงทะเบียนระบบหมอพร้อมออกไปก่อน โดยให้ใช้สำหรับ การติดตามอาการ และ การออกใบรับรองการฉีด
@ทั้งหมดทั้งมงลต้องติดตามต่อไปว่า การปรับกระบวนการจัดการรอบนี้ ของ“ลุงตู่”จะทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหรือไม่ เพราะแม้“หมอหนู”จะยืนยันว่าตอนนี้“การจัดหาวัคซีน” สธ.ยังคงเป็นคนจัดหาแต่ไม่รู้อนาคตเป็นยังไง โดยวัคซีน 6 ล้านโดสของแอสตราเดือนมิ.ย.นั้น มีการส่งให้ทุกวันแบบโลว์ลิ่ง ซึ่งได้คุยกับผู้บริหารไปแล้วในการปรับการส่งออกต่างประเทศลดลงเพื่อจัดสรรให้ประเทศไทยมากที่สุด เพื่อฉีดปูพรมที่มั่นใจว่าจะสามารถฉีดได้มากกว่า 3 แสนเข็มต่อวัน แต่หลายฝ่ายก็ยังเป็นห่วงอยู่นั่นเองว่าถึงเวลา“หน้างาน”จะไม่มีปัญหาแบบทีผ่านมา ซึ่งต้องลุ้นกันว่า ที่ประชาชนแห่จองของกรุงเทพฯวันนี้ถึงเวลาจริงตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. วัคซีนจะมาตามนัดและจะไม่ปล่อยให้ผู้คนรอเก้อ เพราะหากเป็นเช่นนั้นจะเกิดอาการ“ทัวร์ลงลุง”แน่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news