ฟอกงบฯลุง-วัคซีนม้าเต็ง
เป็นดังคาดว่าการประชุมพิจารณาพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 ระหว่าง 31 พ.ค – 2 มิ.ย. จะเป็นเวที ”ซ้อมย่อย” ประหนึ่ง ”เอาจริง” ในการเปิดศึกฟอก ”นายกฯลุงตู่” ว่าด้วยเรื่องความล้มเหลวการจัดการสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบประชาชนทั้งชีวิตและปากท้องเศรษฐกิจ อย่างที่ ”ท่านประธาน” ”นายหัวชวน” ลงทุนทำ ”ส.ส.ตู้กระจก” ให้สวมแมสก์อภิปราย เพื่อการนี้ แม้ก่อนหน้าวันประชุมจะมีข่าวหวาดเสียว แม่บ้านสภา และ แคมป์คนงานสร้างสภาติดโควิด แต่ก็ยังยืนยันเดินหน้าประชุมเพื่อพิจารณางบประมาณ ให้ประเทศเดินหน้าไปได้กลางดงโควิด
เป็นการพิจารณางบที่ฝ่ายค้านเตรียม ”55ขุนพล” ไว้ฟอกลุง โดยพุ่งเป้าไปที่ปัญหา การบริหารจัดการโควิด ที่ ”ลุงตู่” ใช้วิธี”ข้าพจเจ้าของรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ”บริหารแบบ” ซิงเกิ้ลคอมมานด์” ผ่านศบค.ชุดใหญ่-ชุดเล็ก ที่มาหนล่าสุดเกิดปัญหาการบริหารจัดการ ”วัคซีนโควิด” ตั้งแต่การจัดหา ยัน การกระจาย วัคซีน ซึ่งมีหลายจุดเกิดปัญหาจนเริ่มมีข้อสงสัยถึง ”ไส้ใน” ของปัญหา ที่โยงไปๆมา ย่อมมาเกี่ยวกับ “ภาพใหญ่” คือการเรื่องการใช้เงินใช้ทองงบประมาณ ที่ไปกู้มาหลายรอบ รวมถึงรอบล่าสุด 5 แสนล้าน ลดลงมาจาก 7 แสนล้าน ที่เพิ่งอนุมัติ พรก.กู้ ไปแบบรวดเร็วแบบที่ถูกระบุว่าเหมือนเป็น ”เรื่องลับ” โดยที่ไม่ได้มีการนำงบโควิดใส่ไว้ใน ร่างพรบ.งบประมาณ 2565 ตามที่ ”ลุงตู่” แจงไว้ว่า ตั้งวงเงินไว้ 3.1 ล้านล้านบาท เป็น รายจ่ายประจำ 2.3 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 76.15 ของวงเงินงบประมาณ รายจ่ายงบลงทุน 6.3 แสนล้านบาท คิดเป็น 20.14% ของวงเงินงบประมาณ ซึ่งน้อยกว่าวงเงินส่วนที่ขาดดุล ที่มีจำนวน 7 แสนล้านบาท
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักที่ฝ่ายค้านง้างหมัดรอตั้งแต่ปากซอย โดย ”ฝ่ายค้าน” มุ่งไปที่การ ”ขยายแผล” ความล้มเหลวการบริหารจัดการของรัฐบาล ”ลุงตู่” ผ่าน ปม งบประมาณปี 2565 ที่ไม่เน้นในเรื่องโควิด-19 ที่มีการแยกออกมาเป็น พ.ร.ก.กู้เงินโควิดฉบับ 2 ที่ ไม่นำเข้าสู่ระบบงบประมาณจะได้ผ่านการตรวจสอบและดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะสภาฯ เคยอนุมัติเงินกู้ในลักษณะนี้ไป คือ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท กรอบการใช้ก็มี 3 แผนเหมือนกัน โดยเฉพาะการขยี้ประเด็น กู้มาแล้วใช้ไม่เป็น หาเงินไม่เป็น ใช้ไม่เป็น เอามาปู้ยี่ปู้ยำ อย่างที่ ”หมอชลน่าน” บอกโดยขยายผ่านเหตุผลว่า เพราะประสบการณ์กู้ 1 ล้านล้าน ที่ผ่านมามันไม่ได้ผล เชื่องช้าและไม่เกิดประโยชน์
ไม่แต่เท่านั้น ”ศึกฟอกงบลุง” ครั้งนี้ ยังจะมีการขยายภาพ ”หน้างาน” ปัญหาการบริหารจัดการสถานการณ์ล่าสุด ปม ”วัคซีนโควิด” ที่มีดีเดย 7 วันอันตราย ถึงวันที่ 7 มิ.ย.ที่รัฐบาลประกาศไว้ว่าจะ ”คิ๊กออฟ” ฉีดวัคซีน แอสตราเซเนก้า ที่จะมาอีก 6 ล้านโดสในเดือนมิ.ย.ที่วันนี้ยังไร้วี่แวว และส่อแววว่าจะเป็นอย่างที่ ”ธนาธร” เคยว่าไว้ถึง ”วัคซีนม้าเต็ง” แค่ ”ซิโนแวค” กับ ”แอสตราเซเนกา” ที่เพิ่ง ”ปลดล็อก” มี ”วัคซีนทางเลือก” ”ชิโนฟาร์ม” โดย โรงพยาบาลราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ วันก่อน
อย่างที่ ”ยุทธพงษ์” จาก พรรคเพื่อไทย จั่วหัว รอซักฟอก ว่าทั้งหมดเป็นเพราะ “ลุงตู่” ในฐานะ ผอ.ศบค.ที่รวบอำนาจไว้แต่บริหารวัคซีนล้มเหลวหรือไม่ ไม่สามารถจัดหาและกระจายได้ตามประกาศไว้ จนต้องยกเลิก แอปพลิเคชันหมอชนะ ที่ประชาชนลงทะเบียนรอฉีด แต่ปัจจุบันสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไม่มีวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนแอสตราเซเนกา แม้ออก พ.ร.ก.เงินกู้ตั้งแต่ปีที่แล้วเพื่อมาแก้ปัญหาโควิดแต่ก็ล้มเหลว และการที่มีการจะนำเข้า วัคซีนซิโนฟาร์ม เป็นทางเลือก 1 ล้านโดส ในเดือนมิถุนายน นี้ ยิ่งแสดงให้เห็นความล้มเหลวของรัฐบาลหรือไม่ ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวมความเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการเปิดเผยสัญญาการจัดซื้อวัคซีนกับแอสตราเซเนกาจากนี้ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news