“ลุงพล”กับ”ลุงตู่”ยุคโควิด
“ลุงพล”กับ”ลุงตู่”ยุคโควิด
@ในอารมณ์ตัดแทรกสถานการณ์“สงครามโควิด”ที่ยอดยังคงพุ่งแรง ผู้คนหา“วัคซีน”มาฉีดเป็น“ตัวช่วย”ให้รอดพ้นผ่านสถานการณ์ ทั้งสุขภาพและปากท้องแบบเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ห้วง 2 วันที่ผ่านมา มีเรื่องของ“2ลุง”คนดังปรากฎผ่านหน้าปัดข่าวความสนใจของผู้คนแม้จะเป็นคนละมิติแต่ก็น่าสนใจในบทดำเนินที่คล้ายเหมือน ที่ คนหนึ่ง โด่งดังเป็นพลุแตกชั่วข้ามคืนจากคดี“น้องชมพู่”หลานแท้ๆ เสียชีวิตปริศนาที่บ้านกกกอก ที่ความดราม่ากลายเป็นการพลิกผันให้ “ลุงพล”ซึ่งเป็น “ผู้ต้องสงสัย” โด่งดังกลายเป็นเซเลป มีอัลบั้มเพลง มีใครต่อใครแม้แวดวงบันเทิงติดต่อออกงานจนเป็นอาชีพ เพราะมีแฟนคลับหนาแน่นหลายแสนติดตามผ่านโซเชียลทุกวินาทีชีวิตตลอดวัน แม้กระทั่งกินข้าวไข่เจียวก็มีคนดูนับแสน เป็นเวลามาปีกว่า ก่อนที่สุดท้ายจะถูกตำรวจแจ้งข้อหาจับกุมตัวนำเข้าห้องขังเพื่อดำเนินคดี ท่ามเสียงวิจารณ์2ฝั่งทั้งแฟนคลับที่ยังไม่เชื่อว่า“ลุงพล”ผิด ทั้งฝ่ายที่ออกมาบอกว่าคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องใช่
@ขณะที่อีกหนึ่งลุงคนดัง คือ“นายกฯลุงตู่”ขุนทหาร“3ป.”ที่ รัฐประหารเข้ามาเพื่อปฏิรูปประเทศในสถานการณ์วิกฤติความขัดแย้งเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ที่ในห้วงนี้อยู่ในอาการ “เมาหมัด”จากทั้ง “การบ้าน”และ“การเมือง”ที่ประเดประดัง ทั้งในสภา และ นอกสภาฯ ที่กำลังถูก จับมัดรวม เป็นเรื่องเดียวกัน ในสถานการณ์บ้านเมืองกำลังติดโรคงอมแงมจาก “โควิด”ภาค3 ที่ภูกระบุว่าเกิดซ้ำเพราะความผิดพลาดจากรัฐบาล ภายใต้การนำของ“ลุงตู่”และพอจะมีโอกาส“ขอแก้ตัว”ก็ยังเกิดภาพ “ความล้มเหลว” ในการบริหารจัดการแบบ“ซิงเกิ้ลคอมมานด์”ซ้ำจากภาพการทำให้เกิดความสับสนกับประชาชน ตั้งแต่กรณี“วอล์กอิน”ฉีดวัคซีน มาถึงเลิกจอง“แอปหมอพร้อม”และกรณีเบรก กทม.ของ“บิ๊กวิน”ปลดล็อก 5 ธุรกิจบริการวันก่อน
@ที่ทุกเรื่องมีสาเหตุจากปัญหาการบริหารจัดการ “วัคซีน”ที่มีไม่เพียงพอกับ“หน้างาน”ที่เปิดจอง หลังจากมีการบิ๊วอารมณ์ ให้ผู้คนยอมรับ “วัคซีนม้าเต็ง” แบบแทงม้าตัวเดียวไม่มีวัคซีนทางเลือกให้ประชาชน ที่“มาดามแป้ง” “นวพรรณ ล่ำซำ”แห่งบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่เป็นตัวกลางผลิต“วัคซีนแอสตราเซเนกา”ในประเทศไทยที่ส่งมอบวัคซีนให้รัฐบาล1.8ล้านโดสเมื่อวาน(2มิ.ย.) เพิ่งโยนกลับมาให้“รัฐบาลลุงตู่”ว่าเป็นสาเหตุของปัญหาที่ทุกคนมารุมทวงถามการผลิตของ“แอสตราเซเนกา”
@ขณะที่เมื่อหันมาที่ฝ่ายการเมือง ใน รัฐสภา ผ่านภาพ การอภิปราย พรบ.งบประมาณ 2565 ห้วง 2-3 วันที่ผ่านมา ที่แม้จะเป็นไปตามคาดกับ “ละครโรงใหญ่” ราชสีห์ หนู และงูเขียว อย่างที่“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ดักคอไว้ถึงขนาด “ชาดา ไทยเศรษฐ” ชวน “หัวหน้าหนู”กลับบ้านเพราะ“ลุง”ไม่รัก รวมถึงคน ปชป. ก็ฟอกแรงถึงการจัดงบประมาณที่อาจผิดกฎหมาย แต่แม้จะ“เล่นใหญ่”ใช้เวทีพิจารณางบประมาณ ฟอก“ลุงตู่” ตามน้ำไปกับ “ฝ่ายค้าน”จน“ลุง”ถึงกับถอนหายใจเฮือกๆ และ นำไปบ่นกลางวงประชุมครม.ว่าคุยกันแล้วแต่ทำไมปล่อยให้ลูกพรรคอัดกันโครมคราม แต่ท้ายที่สุดลงมติเมื่อวาน(2มิ.ย.) ทั้งสองพรรค ก็ยังลงคะแนนผ่านงบ แบบที่โดนล้อว่ายังเป็นอยู่ในบทละคร จำเลยรัก ที่พระนางยังมีแต่บทตบจูบ
@แต่นั่นก็ไม่เท่ากับ“ผลกระทบ”ที่เกิดกับ“ลุงตู่”ในด้านความ”เชื่อมั่น“ในการจัดการสถานการณ์ “โควิด”จากนี้ที่มีเดดไลน์วันคิ๊กออฟ 7 มิ.ย. เป็นบททดสอบอีกยกว่า จะ“สอบผ่าน”วัคซีนพอ การจัดการ เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ไม่เกิดความวุ่นวายสับสนทำให้ผู้คนเสียอารมณ์…ท่ามกลางข่าว“กองหนุน” อยากให้เปลี่ยนตัว“ผู้นำ” เริ่มมีผู้คนออกมาแอ๊คชั่น“ตรวจสอบ” การบริหารจัดการของ“ลุงตู่”
ทั้งเรื่องการจัดสรรงบประมาณ ปม พรก.กู้เพื่อโควิด ล่าสุด ที่ฝ่ายค้านใช้คำว่า“ตีเช็คเปล่า” ทั้งปมครหา“วัคซีน”แทงม้าตัวเดียว ที่กำลังเป็นปัญหาการกระจายวัคซีนล่าช้าไม่ทันการระบาด ที่ทั้งหมดถูกมองว่าจะไปลงเอยที่สัญญานทิศทางการเมืองหลังจากนี้ ที่ “พรบ.งบประมาณ”ผ่านสภา ทุกฝ่ายมีเสบียงกรังพร้อมสำหรับความเปลี่ยนแปลง ไปสู่การเลือกตั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news