“วัคซีน”ลับลวงเท
“วัคซีน”ลับลวงเท
แม้จะมีภาพจูบปากนั่งโต๊ะแถลงร่วมแบบคุยกันได้ของ 3-4 หน่วยงานหลังเกิดภาพ ”โยนกลอง” กันไปมาระหว่าง ศบค. กทม. และ สธ. ที่ล้วนอันเดอร์ ”นายกลุงตู่” ผู้บริหารแบบ ”ซิงเกิลคอมมานด์” ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ที่เพิ่งระบายความรู้สึกต่อ ”สภาสูง” ไปวันก่อน ยืนยันยังไม่ถอดใจ แม้รู้ว่ามีคนไล่อยู่ทุกวันก็ยังไม่ไปไหนยิ่งไล่ยิ่งสู้ หลังภาพการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดภาค3 ทั้งการไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดที่มีการเจ็บตาย และการจัดการกับการนำเข้าจัดสรรกระจาย วัคซีน เพื่อหยุดยั้งการระบาดและนำไปสู่การฟื้นความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ ถูกประเมิน ”ไม่ผ่าน” แบบยกกำลังสองถึงขั้น ”ล้มเหลว” ไม่แต่ในเวทีรัฐสภา แต่ยังมีนอกสภาฯทั้ง จาก ”ฝ่ายตรงข้าม” และ ”คนกันเอง” ที่ระยะหลังเริ่มออกมาบ่นก่นด่าแรงขึ้น เพราะมีประสบการณ์ร่วม ”ถูกเท” เช่นรายของ “อ.แก้วสรร อติโพธิ” ที่ด่าแรง 3 ตัวย่อ ”คอย-วัคซีน-อยู่” …ที่ว่ากันว่านอกจาก สถานการณ์ที่ต้องลุ้นตั้งแต่ ”นายกลุงตู่” ลงมา ว่าพรุ่งนี้(17 มิ.ย.)วัคซีนจะมามั้ย จะครบลอต 6 ล้าน ที่ตั้งไว้มั้ย ยังมีโอกาสเกิดขึ้นอีกหลังจากนี้ โดยเฉพาะอาการแบบ ”นัดแล้วเท” ที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนหน้านี้กับ วัคซีน ”แอสตราเซเนกา” ลอตถัดไป เดือนก.ค. 10 ล้านโดส
- วัคซีนไล่”ลุงตู่”สู้
- ม.33วัคซีน”ลุงตู่”ที่แท้เท
- ราชสีห์กับหนูกลางโควิด
- สภาเปลี่ยน”ลุงตู่”กลางศึก
- วัคซีนทิพย์-ฉีดไปลุ้นไป
ที่แม้วันนี้ (16มิ.ย.) รัฐบาลจะมีความพยายามนำเสนอข้อมูลตัวเลขว่ามีการเร่งระดมฉีดวัคซีนถึง 6.7 ล้านโดสไปแล้ว หลังเมื่อวาน (15มิ.ย.) ตัวเลขติดเชื้อโควิดทะลุ 2 แสน ขณะวันนี้ยอดตายพุ่ง 40 ติดเชื้อเพิ่มยังอยู่ที่ 2,331 คน …ที่เมื่อดูไปที่ ”ไส้ใน” ของการฉีดวัคซีน ในจำนวน 6,780,816 โดส ที่ฉีดสะสมมาตั้งแต่ 28 ก.พ.พบว่ามีการฉีดเข็ม1ของ “ซิโนแวค” ไป 3,158,955 โดส แอสตราเซเนกา 1,789,272 โดส เข็ม 2 ของ ซิโนแวค 1,793,223 โดส แอสตราเซเนกา 39,366 โดส โดยในการฉีดตั้งแต่วันคิกออฟ 7 มิ.ย.ทั้งเข็ม 1 และ 2 รวม 2,680,295 โดส เป็นการฉีดเข็ม 1 ถึง 2,177,980 เข็มสอง 502,315 โดส ที่ไส้ในตั้งแต่ 7 มิ.ย.เป็นการฉีดวัคซีนแอสตราฯเข็มหนึ่ง 1,690,775 โดส เข็มสอง 26,692 โดส
เรียกว่าเอาเข้าจริง ตัวเลขกลมๆที่วนๆกัน สำหรับ ”วัคซีนม้าเต็ง” อย่าง ”แอสตราเซเนกา” ยังคงเป็นตัวเลขใน 1.8 ล้านโดสเดิม ที่เคยมีการแถลงว่าในเดือนมิ.ย.วัคซีนแอสตราฯ จะส่งมอบ 6 ล้านโดส ก.ค.-พ.ย.เดือนละ 10 ล้านโดส ธ.ค. 5 ล้านโดส รวม 61 ล้านโดส จนต้องเอา ”ซิโนแวค” มาคอยเติม ไม่นับรวมการปลดล็อก ”วัคซีนทางเลือก” ให้เอกชนนำเข้า เริ่มมาเติมในเดือนหน้า จนเริ่มเกิดคำถามถึงความจริงจากปัญหาการ จัดสรรวัคซีน ”ที่มีในมือ” และ “ยังไม่มีอยู่ในมือ” โดยวัคซีนในมือที่จำกัดจำเขี่ย กลายเป็นความขัดแย้งตั้งแต่โรงพยาบาลเอกชนยันรัฐมนตรี ยัน กทม. สธ.และศบค. นั้นถูกครหาว่าเป็นเพราะมีการแย่งโควตาไปจัดการของฝ่ายการเมืองในพื้นที่และในส่วนที่ตัวเองดูแลเพราะมีกลิ่นสัญญาณใกล้เทศกาลเลือกตั้ง… ขณะที่ ”วัคซีนที่ยังไม่มีอยู่ในมือ” นั้น ”รัฐบาล” ถูกครหาว่า ไม่บอกความจริงของจำนวนที่แน่นอน และไม่เปิดเผยถึง ”สัญญา” ที่มีกับบริษัทแอสตราเซเนกา ที่เป็นบริษัทยาเอกชนของอังกฤษ ที่ว่าจ้าง บริษัทสยามไบโอไซน์ตั้งโรงงานผลิตในไทย ทั้งที่มีการวางมัดจำไปแล้วเท่ากับประมาณ 15 ล้านโดส
ที่น่าสนใจพิจารณาจากข้อมูลของ”เพจหมอชนบท”คือ ในการผลิตในโรงงานไทยนั้น มียอดการสั่งวัคซีนมาแล้ว 8 ประเทศ ซึ่งกำลังการผลิตที่ตั้งใจไว้คือ 15 ล้านโดสต่อเดือน แต่ยังผลิตได้ไม่ถึงเป้า เมื่อเทียบ ตัวเลขที่ ศบค.แถลงไว้ ตอนแรกว่า ตั้งแต่กรกฎาคม ส่งไทยเดือนละ 10 ล้านโดส ที่เหลือแปลว่าส่งออก …แต่ในเดือนมิถุนายนนี้มีข่าว ไต้หวัน มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ได้โวยออกสื่อ ว่า ไทยเบี้ยวการส่งวัคซีนให้ หากกำลังการผลิตเต็มที่ที่ 15 ล้านโดสต่อเดือน การส่งออกเพียงเดือนละ 5 ล้านโดส ก็น่าจะไม่พอ เพราะแต่ละประเทศก็สั่งกันเป็นหลักล้านโดสต่อเดือนทั้งสิ้น ซึ่งความจริงเป็นอย่างไรคงมีไม่กี่คนที่รู้ เพราะยากที่ใครได้เห็นสัญญาการจัดซื้อวัคซีน โดย ”เพจแพทย์ชนบท” สรุปว่า เมื่อสถานการณ์ของแอสตราไทยแลนด์เป็นเช่นนี้ เดือนกรกฎาคม สิงหาคม ก็น่าจะยังต้องลุ้นกับภาวะการมีวัคซีนไม่พอฉีดต่อไป รัฐบาลก็รู้ แต่พูดมากคงไม่ได้
ที่ก็สอดรับกับข้อมูลจาก ”ไพศาล พืชมงคล” อดีตกุนซือรองนายกฯที่ตั้งข้อสังเกต ว่า เหตุที่เปิดเผย เรื่องสัญญาซื้อวัคซีน ว่าซื้อจากใคร ราคาเท่าไหร่ มีกำหนดได้รับมอบเมื่อใด ไม่ได้ น่าจะเป็นเพราะ ประเทศไทย ไม่ได้ซื้อโดยตรงกับผู้ผลิต ที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ การนัดฉีดวัคซีนและการวางแผนกระจายวัคซีน เป็นปัญหาดังที่เป็นอยู่!! ซึ่ง ในสงครามใดถ้าไม่รู้กำลังทหารข้าศึก ไม่รู้ ภูมิประเทศ และไม่รู้ กำหนดเวลาสงคราม ก็ต้องพ่ายแพ้แน่นอน!!!! และว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องบอกความจริงให้ประชาชนทราบ และถึงแม้จะปกปิดอย่างไรวันหนึ่งความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news