เปิดประเทศ-อาเพศวัคซีน
เปิดประเทศ-อาเพศวัคซีน
ดูทรงจังหวะ ”เล่นใหญ่” แบบ “รู้ว่าเสี่ยงแต่ก็ต้องขอยอม” ผ่าน แถลงการณ์ โทรทัศน์รวมการณ์เฉพาะกิจเมื่อวาน (16มิ.ย.) ของ ”นายกฯลุงตู่” ที่วันนี้(17มิ.ย.) แอ๊คชั่นต่อ เปิดกำหนดการ เตรียมบินดู “ภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์” ศุกร์หน้า 25 มิ.ย. เพื่อคุยกับภาคเอกชนท่องเที่ยว ในพื้นที่เตรียมเปิดเกาะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แบบเหมือนเจตนาให้ผู้คน ”จับต้องได้” เป็นรูปธรรมในสิ่งที่นายกฯสปีคกิ้ง ผ่านภาพ ”โมเดลภูเก็ต” ที่มีการฉีดวัคซีนโควิดสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ประชาชนเกือบครบ 70% ตามทฤษฎีที่”หมอ”แนะนำแล้ว ในจังหวะที่รัฐบาลในการบริหารแบบ ”ซิงเกิลคอมมานด์” ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวของ ”นายกฯลุงตู่” กำลังโดน ”ทัวร์ลง” อย่างหนักจากปรากฎการณ์ ”เท” ประชาชน ที่จองคิวฉีดวัคซีนมาหลายรอบ แบบที่ ”นายลุงตู่” และ ศบค.โดย ”บิ๊กเล็ก” เองก็ตอบได้ไม่เต็มปากเต็มคำ หรือจะให้ความมั่นใจว่า ”วัคซีน” อยู่ไหน จะมาวันไหน นอกจากบอกไทม์มิ่งแบบกว้างๆเช่นภายในเดือนมิ.ย.นี้ หรือประมาณสัปดาห์นี้ที่ก็ลุ้นกันอยู่วันนี้(17มิ.ย.) จนเมื่อถึง “เดดไลน์” หลัง “วันคิกออฟ” (7มิ.ย.) ถึงวันที่ 14 มิ.ย.ที่เกิดความโกลาหล หนีไม่ออก ต้องยอม ขอโทษขอโพยในความผิดพลาดทางเทคนิคที่เกิดขึ้นทำให้ต้องเปลี่ยนแผนกันรายวันจากเร่งรอบให้ฉีดเร็วเป็นชะลอฉีดเพื่อรอวัคซีน
ทำให้น่าสนใจว่า อาการออกปาก ”ยอมเสี่ยง” โดยขอให้ ”คนไทย” ร่วมเสี่ยงไปด้วยกันในการกำหนดนโยบายผ่าน ”โรดแมปเปิดประเทศใน 120 วัน” หรือในวันที่ 13 ต.ค.64 และฉีดวัคซีนเข็ม 1 ให้ได้ 50 ล้านโดส ภายในต้นเดือนตุลาคม ของ ”นายกลุงตู่” เมื่อวาน (16มิ.ย.) นอกจากมิติ ทางการเมือง คู่ขนาน ที่ถูกประเมินว่าภาพของ ”ผู้นำ” เสียหาย ด้าน ความเชื่อมั่นจากประชาชน ไม่น้อย ต่อการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดและการจัดการเรื่องวัคซีนที่เป็นความหวังสุดท้ายการฟื้นเศรษฐกิจประเทศ ดูได้จากการ ”ออกอาการ” ทั้งเวที ”สภาล่าง” ส.ส.และ ”สภาบน” ส.ว.250 ที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าว ”สัญญานการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง” โดยเฉพาะตัว ”นายกฯ” ที่มีข่าวการแต่งตัวรอของบางบุคคลที่อยู่นอกวงการเมือง ตามมาด้วยข่าว ยุบสภาฯที่ดูทรงผ่าน ”ภาษากาย” และการออกปากของนายกฯเองว่าเหลือเวลา 1 ปี ที่ตอนหลังออกมาพูดว่า จะอยู่ครบวาระ ยิ่งถูกไล่ยิ่งสู้ ในจังหวะที่ในประเด็นการเมืองกำลังมีภาพของการประชุมใหญ่เพื่อปรับเปลี่ยนขุนพลนำทัพ ของพรรคพลังประชารัฐที่ข่อนแก่นพรุ่งนี้ (18มิ.ย.) และมีภาพ การเพิ่ม ”อัตราเร่ง” กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสัปดาห์หน้า ที่มีดีเดย์วันสัญลักษณ์ 24 มิ.ย.
- วัคซีนไล่”ลุงตู่”สู้
- ม.33วัคซีน”ลุงตู่”ที่แท้เท
- ราชสีห์กับหนูกลางโควิด
- วัคซีนม.33รมต.เฮ้งมีเฮไม่มีเท
- วัคซีนการเมือง”ลุงตู่”หมดอายุ
- นายกฯขอโทษ ขอรับผิดชอบ ทำปชช.เลื่อนฉีดวัคซีน
- ท้องถิ่นซื้อวัคซีนเปิดประตูฟื้นศก.
- โยนกลอง-วัคซีนใต้พรม
โดยนอกจากประเด็น ”การเมือง” อดไม่ได้ที่หลายฝ่ายจะประเมินการออกมาแถลงการณ์ของ ”นายกฯลุงตู่” ว่า เป็นการ ”ดึงจังหวะ” อาการต้อง ”อาเพศวัคซีน” ของรัฐบาลที่อยู่ในอาการ ”พูดไม่ออกบอกไม่ถูก” กับแผนรบศึก ”โควิด” ที่คลาดเคลื่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะไม่มี ”กระสุน” หรือ ”วัคซีน” ในมือทั้งที่มีโรงงานผลิตวัคซีนหลักแอสตราเซเนกา อยู่ในประเทศ และมีเคยมีแผนส่งมอบ 6.9 ล้านในเดือนนี้ และเดือนก.ค.-พ.ย.เดือนละ 10 ล้านโดส ที่ยังคลุมเครือว่าจะส่งมอบได้ตามนั้นหรือไม่จนต้องนำ ”ซิโนแวค” และ ”ปลดล็อกวัคซีนทางเลือก มาเติมเต็ม.. ด้วยการ ซื้อเวลา ออกไปอีก 120 วัน กับ “ภาพฝัน” เป็น ”ความหวัง ”ในการ ”เปิดประเทศ” และตีเนียนการ ”ลดเป้า” ระยะใกล้ฉีดเข็ม 1 ให้ได้ 50 ล้านโดส ภายในต้นเดือนต.ค.ใกล้กัน จากเดิมที่เอาเรื่อง ”ชีวิตสุขภาพประชาชน” มาก่อน โดยฉีดให้ได้ 100 ล้านโดส ครอบคลุมประชากร 70% ภายในสิ้นปี 2564 ตามที่เคยตั้งไว้ มาสู่การ ”ยอมเสี่ยง” เปิดประเทศให้ได้ก่อนใน ”ครึ่งทาง” ที่เหลือค่อยว่ากัน
- เอกชนขานรับนายกฯเปิดประเทศใน 120 วัน
- นายกฯเตรียมลงภูเก็ต25มิ.ย.ดูความพร้อมเปิดประเทศ
- นายกฯตั้งเป้า120วันเปิดปท.รับนทท.ฟื้นศก.
ที่หากพิจารณา ”ไส้ใน” โดยไม่นำปัจจัย ”ความเชื่อมั่น” มาปน ก็น่าสนใจตัวเลขที่ ”ลุงตู่” อธิบายถึงการไม่สามารถรอจนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสค่อยเปิดประเทศเพื่อให้ประชาชนกลับออกมาทำมาหากินได้อีกครั้ง โดยการเดินหน้าตามแผนฉีดวัคซีนเฉลี่ย ประมาณเดือนละกว่า 10 ล้านโดส ที่ยังคงเป็นตัวเลขในแผนเดิม และเมื่อดูแผนกระจายวัคซีน เดือน มิ.ย. 64 คือ 6.96 ล้านโดสตลอดทั้งเดือน ประกอบด้วย สัปดาห์ที่ 1-2:3.54 ล้านโดส – แอสตราเซเนกา : 2.04 ล้านโดส – ซิโนแวค : 1.5 ล้านโดส สัปดาห์ที่ 3 แอสตราเซเนกา : 8.4 แสนโดส สัปดาห์ที่ 4 แอสตร้าเซนเนก้า : 2.58 ล้านโดส
ที่ตอนนี้เราอยู่ปลายสัปดาห์ที่ 2 ที่รอการส่งมอบ ”วัคซีนแอสตราเซเนกา” ที่เหลือ โดยตัวเลขการฉีด ที่สธ.รายงานวันนี้ที่มีการฉีดตั้งแต่ 28 ก.พ.- 16 มิ.ย.=7,003,783 โดส เข็มหนึ่ง 5,114,755ราย แยกเป็น ซิโนแวค 3,214,385 ราย แอสตราฯ 1,900,370 ราย เข็มสอง 1,889,028ราย ซิโนแวค 1,845,705 ราย แอสตรา 43,323 ราย …เท่ากับ ”ลุงตู่” จะต้องฉีดเข็ม 1 ให้ได้อีกประมาณ 45 ล้านโดส ใน 120 วัน หรือราว 4 เดือน จากนี้ให้ได้ ที่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า ”บ.แอสตราฯ” ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 15 ล้านโดส และยังมีติดเงื่อนไขต้องส่งออกให้อีก 8 ประเทศที่รอคิว จะส่งมอบ ”วัคซีน” ให้ ”ลุงตู่” ฉีดได้ตามที่ตั้งโรดแมปที่วางไว้ได้หรือไม่และถึงเวลานั้น ”วัคซีนทางเลือก” 40% ที่คงทยอยมาแล้ว จะช่วย ”ลุงตู่” ซื้อเวลาจนพ้น ”อาเพศวัคซีน” ไปก่อนได้หรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news