การเมืองกลางศึกโควิด
จับอาการเคลื่อนขยับทางการเมืองอย่างคึกคัก ทั้งคิวประชุมพรรคพลังประชารัฐวันนี้ (18มิ.ย.) เพื่อเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคจาก ”เสี่ยแฮ้งค์” เป็น ”ผู้กองนัส” เตรียมการรับศึก เลือกตั้ง ตามสัญญาณการเมือง “ยุบสภา” ที่แม้จะถูกปฏิเสธจาก “นายกลุงตู่” ยืนยันอยู่ครบเทอมแต่ก็ยังมีกลิ่นไอ ในขณะมีการกลับมาเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญกันอย่างจริงจังอีกครั้งของพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านโดยพุ่งเป้าไปที่ประเด็น ”บัตรสองใบ” ในจังหวะ ”โควิดภาค3” ยังพีคยอดคลัสเตอร์ยังคงเกิดขึ้นทั้งเมืองหลวงและบางจังหวัดที่ทยอยเปิดเรียนวันก่อน แบบยังต้องมีลุ้นว่า โรดแมป เปิดประเทศภายใน120วัน ของ ”นายกลุงตู่” ที่ถูกหลายฝ่ายมองเป็นการ ”ดึงเช็ง” ยืดเวลาเบนเป้า แบบที่ เกิดอาการพลาดนัด เทซ้ำเทซ้อน ”วัคซีนผิดนัด” ที่ยังคงคลุมเครือ และต้องลุ้นทุกช่วง 15 วัน จน กระแสตีกลับแรง และเริ่มมี ”ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง” รวมถึง ฟากฝ่ายกองหนุนคนกันเอง นำมาเป็นประเด็น ”วัคซีนไล่ลุง”
น่าสนใจในความจริงจังกับการเคลื่อนขยับเตรียมการทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐที่นำโดย ”หัวหน้าป้อม” ที่วันนี้ ลาราชการ บิน เครื่องบินเจ็ท เอกชน ไปขอนแก่น ร่วมประชุมพรรคพลังประชารัฐ โดยยกเลิก การลงพื้นที่ ในฐานะ รองนายกฯ เพื่อ พบปะแกนนำโดย พรรคพปชร.เตรียมให้ ”ผู้กองธรรมนัส” ที่มีผลงาน ศึกเหนือ ศึกใต้ ช่วงที่ผ่านมา ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค นำทัพ รับศึกเลือกตั้ง ภายใต้การปรับขยับเงื่อนไขกระบวนการในรัฐธรรมนูญ 60 โดยเจ้าตัวบอก ก็พร้อมนั่ง ”เลขาพรรค พปชร.” หากสมาชิกพรรค เสนอเลือก
พร้อม ประกาศนโยบาย พปชร. ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจแต่จะเป็นสถาบันการเมืองที่มั่นคง ยืนยันพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าประกาศตั้งแต่พรุ่งนี้ ไม่มีกลุ่ม-ก๊วนในพรรค
- วัคซีนไล่”ลุงตู่”สู้
- ม.33วัคซีน”ลุงตู่”ที่แท้เท
- ราชสีห์กับหนูกลางโควิด
- วัคซีนม.33รมต.เฮ้งมีเฮไม่มีเท
- วัคซีนการเมือง”ลุงตู่”หมดอายุ
- นายกฯขอโทษ ขอรับผิดชอบ ทำปชช.เลื่อนฉีดวัคซีน
- ท้องถิ่นซื้อวัคซีนเปิดประตูฟื้นศก.
- โยนกลอง-วัคซีนใต้พรม
ที่เมื่อดูกลไกเครื่องมือที่จะทำให้ “ศูนย์อำนาจ3ป.” ปัจจุบัน ยังคงต่อทอดอำนาจทางการเมืองต่อผ่านระบบการเลือกตั้งอีกรอบ ผ่าน รัฐธรรมนูญ60 ที่กำลังมีปัญหากับการรองรับขนาดที่ขยายตัวของพรรคพลังประชารัฐ ในประเด็น “บัตรเลือกตั้งใบเดียว” ที่มีผลให้เกิดสภาพพรรคเล็กพรรคปัดเศษ รวมถึงการขจัดปัญหาพรรคขนาดกลางมีบทบาทในรัฐบาลแบบยากควบคุมเช่นกรณี ปชป.และภูมิใจไทย ทำให้เกิดภาพทิศทางเดียวกันของ 2 พรรคใหญ่ อย่างพปชร.และ เพื่อไทย ในการมุ่งแก้ไขประเด็น บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ระบบเขต–บัญชีรายชื่อ โดยเฉพาะ พปชร.ที่ขยายตัว และยังอยู่ในอำนาจทางการเมืองมีโอกาสควบคุมทั้งงบประมาณและกระบวนการสัมฤทธิ์จากผลงานโควิดถัดจากนี้ ถ้ายังมีการใช้ระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียวตามรธน.60 พรรคพลังประชารัฐจะไม่มีโอกาสแซงพรรคเพื่อไทยได้ และระบบนี้ อาจจะทำให้พรรคพลังประชารัฐเดินตามรอยพรรคเพื่อไทย ที่แม้ได้ ส.ส.เขตมากที่สุดในสภาฯ แต่ไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่สำคัญ พปชร.ย่อมต้องการมีส.ส.อย่างน้อยเกิน 200 คน เพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ที่แน่นอนย่อมหมายถึงไม่ต้องคอยกังวลที่จะต้องเสีย ”เก้าอี้ดนตรี” ให้กับพรรคร่วมรัฐบาล อย่างที่ผ่านมา
ทั้งหมดทั้งมวลต้องติดตาม ต่อว่า การกระเพื่อมแรงของฝ่ายการเมืองช่วงนี้ จะหมายถึงการประเมินแล้วว่าสามารถจัดการสถานการณ์โควิดและเศรษฐกิจได้ ใน 120 วัน อย่างที่ ”นายกลุงตู่” ว่าไว้หรือไม่และเอาเข้าจริงจะเป็นไปอย่างที่ พรรคหลัก พปชร.คาดการณ์การณ์ไว้หรือไม่ หรือเอาเขาจริงจะเป็นเพียงแค่การการเบี่ยงเบนสถานการณ์ความเพลี่ยงพล้ำของรัฐบาล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news