วิกฤตโควิด-ม็อบไล่ลุง
วิกฤตโควิด-ม็อบไล่ลุง
@หลังการพูดคุยกับ”หมอหนู”และผู้บริหารสาธารณสุขที่ทำเนียบฯ”นายกลุงตู่”ยังคงยืนยันเดินหน้า” 120วันเปิดประเทศ”แม้จะมีภาพผล”ชิมลาง”เปิดเรียนเด้กนักเรียนติดกันเพียบหรือ การออกมาแถลงการณ์ของหมอขอให้”รอบคอบ”มีแผนชัดเจนและทบทวนให้ดี เพราะ ถ้า”ลุงตู่”ถอยยึกยัก ก็เสียหายโดยเฉพาะ”ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”ที่แพลนไว้ 1 ก.ค.จะไป” เปิดประเทศรับฝรั่งเข้าบ้าน”
แม้สภาพการณ์ของสถานการณ์”โควิดเวฟ3”วันนี้กลับมาพีคแรง ตาย 51 ติดเชื้อ 3,174 แตะระดับ3-4พัน ต่อเนื่องมาก 5 วัน แบบ”คิกออฟฉีดวัคซีน” 7 มิ.ย.เร่งฉีด”ปูพรม”ไม่ได้ช่วยอะไรได้ เพราะปัญหา”กระสุนวัคซีน”ในมือจำกัด จนต้องสั่งชะลอการฉีดจากอัตราเร่งที่เคยตั้งไว้ให้ได้วันละ8แสน ฉีดสูงสุดต่อวันได้จริง4.7แสน “ลดสอบ”ลงมาเรื่อย จนเมื่อวาน(22มิ.ย.)ฉีดไปได้แค่ 9 หมื่น
@ส่วนหนึ่ง เพราะ”วัคซีนแทงม้าตัวเดียว”ที่เป็นหลัก”อย่าง”แอสตราเซเนกา”ที่สั่งไป2ลอต61ล้านโดสนัดส่ง 2 ขยัก ยังมาแบบกระท่อนกระแท่น เหตุ”บริษัทแม่”ผลิตไม่ทันส่งออก 8 ประเทศจนโดนฟ้อง ต้องทะยอยจัดคิว ทำให้”หมอหนู-ลุงตู่”ต้องหันมา สั่งเพิ่ม “วัคซีนซิโนแวค” มาคอยโปะเติมกันถูกด่า แบบวันต่อวันจนโดนครหา แผนซื้อ40กว่าล้านโดสที่ย้อนแย้งสถานการณ์”เชื้อกลายพันธุ์อินเดีย” ที่”หมอ”ต้องอ้อมแอ้มอธิบายให้ว่า ต้องซ้ำ 3 เข็ม และเรื่อง “ราคาต่อโดส”ที่แพงกว่า วัคซีนแอสตราฯ ไฟเซอร์ เมอเดอร์นา ถึง5เท่า หลังเกิดภาพ”เทประชาชน”ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจน”ทัวร์ลงลุง” ทั้งจากประชาชนและ”คนกันเอง”อย่าง”อ.แก้วสรร อติโพธิ”ที่ออกมาด่าแรงแจกตัวย่อ”คอย-วัคซีน-อยู่”
@โดยอาการ”ทัวร์ลง”จากปมคนผวาตายเจ็บและปากท้องจาก ”โควิด” ในสภาพเริ่มใจแป้วกับการบริหารจัดการของรัฐบาลที่พลาดมาจากช็อต”สงกรานต์”มาแล้ว นำมาสู่ซีน” 120วันเปิดประเทศ ” ที่บังเอิญมาในจังหวะ”ผีผลัก” สัญญานการระบาดกลับมา”พีค”อีกละลอกจนเริ่มเกิดภาพวนลูปกลับมา”โกลาหล”ของ”นักรบโควิด”ด้านหน้า ที่ ห้องฉุกฉินและเตียงในโรงพยาบาลรัฐเริ่มเข้าสู่วิกฤติ อย่างที่”หมอไพโรจน์ เครือกาญจนา”รอง ผอ.รพ.ราชวิถี ออกมากระตุกแรง จน”หมอธีรวัฒน์” นำมาโพส วันนี้(23มิ.ย.) จี้ผู้มีอำนาจต้องหาทางออกแก้ไขไม่งั้นระบบสาธารณสุขจะล้ม
เพราะขณะนี้ห้องฉุกเฉินของ รพ.รัฐต่างๆในกรุงเทพฯ เข้าสู่ภาวะวิกฤต เช่น สถานการณ์เวรบ่าย ER ของ รพ.ราชวิถีวันนี้ – เคส confirmed covid 11 เคส + รอ confirm น่าจะผลบวก อีก 3 เคส – ห้อง negative และ พื้นที่แยกของ ER เต็มทั้งหมด (ไม่มีพื้นที่รับเคส covid และ PUI ใหม่แล้ว) ซึ่งคงจะไม่สามารถปฏิเสธหากมีเคสที่ walkin หรือมาโดยระบบ EMS ถึงขั้นมี staff EP มาถามแล้วว่า จะขอใช้ รถ negative ของนเรนทร เป็นพื้นที่ดูแลคนไข้กรณีต้องใส่ ETT/ resuscitate ได้ไหม ทั้งนี้ยังไม่นับรวมปัญหาเริ่มมีรายงาน ”บุคลากรทางการแพทย์” ที่รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม แต่ติดโควิดจำนวนไม่น้อย ซึ่งส่งผลต้องหยุดทำงานหน้างานดูแลผู้ป่วยทำให้เกิการชะงักและโหลดกำลัง
@เรียกว่าสถานการณ์ระบาดเริ่มกลับมาพีคจนหมอหลายท่านกังวลและเริ่มพูดถึง”โควิดเวฟ4”ดังข้อมูลจาก”หมอยง” ที่ว่า ขณะนี้สายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในประเทศไทย 90% เป็นสายพันธุ์อังกฤษ (แอลฟา) ส่วนอีกประมาณ 10% เป็นสายพันธุ์อินเดีย (เดลตา) คาดอีก 3-4 เดือนจะค่อยๆ เพิ่มเป็นไวรัสส่วนใหญ่ต่อไป เช่นเดียวกับ”หมอธีรวัฒน์”ที่ก็เตือน ว่าต้องเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด เพราะปัจจุบันรู้แล้วว่า มีทุกสายพันธุ์เข้ามา และต่อไปคงมี “เดลต้า พลัส” ที่มี การเปลี่ยนของรหัส 417 แบบ เบต้า ที่หนีภูมิคุ้มกันได้เก่งและตัวอื่นๆ
ซึ่งวัคซีนที่ใช้ขณะนี้ จำนวนยังไม่เพียงพอ ที่จะรุกฉีดหนักให้ได้ 2 เข็ม ใน70-90% ใน 2 เดือนแต่อย่างไรก็ต้องทำให้ได้ เพราะ ขนาดแค่”ไวรัสบ้านๆ”ขณะนี้ ห้องผู้ป่วยอาการหนักไอซียูอัตคัดขาดแคลนกันไปทั่ว ไม่ว่าชนิดยี่ห้อที่ใช้ใดก็ถือเป็น “เกราะป้องกันการติดเชื้อ” และป้องกันอาการได้ไม่ดีนักกับ”วายร้ายใหม่”เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เก่าแบบบ้านๆที่มี และเป็นเหตุผลที่ในที่สุด ต้องเตรียมเข็มสาม ที่ไม่ใช่ ยี่ห้อเดิมที่มีอยู่และต้องฉีดเร็ว มากที่สุด และเหตุที่ต้องมีวัคซีนอื่นๆซึ่งควรจะมีตั้งแต่ตัน แต่ก็ไม่สาย ถ้าลุยหาเดี๋ยวนี้
@ที่ทั้งหมดต้องติดตามต่อว่าในจังหวะที่”นายกลุงตู่”อยู่ในอาการ “ห่วงหน้าพะวงหลัง” ทั้ง ”การบ้านโควิด”ที่กำลังวิกฤติ และ”การเมือง”ที่กำลังรุกเร้า ทั้งในสภา”ประชุมแก้รัฐธรรมนูญ”และ”นอกสภา”กับม็อบที่ก่อนตัว ในวีคนี้กับปฏิบัติการ”แม่น้ำร้อยสายไล่ลุง”ทั้ง”จตุพร-ทนายนกเขา-ม็อบเด็กราษฎร”ที่นัด”เปิดรูระบาย” ให้ผู้คนที่ทนลุงไม่ไหวกับการบริหารประเทศที่ผ่านมารวมถึงผลงานโควิดล่าสุด ตั้งแต่ค่ำวันนี้(23มิ.ย.) ผ่านระบบออนไลน์ในโซเชียล ไปจนถึงการจัดกิจกรรมลงถนน”ไล่ลุง”ทั่วประเทศวันพรุ่งนี้24มิ.ย.ที่ต้องดูว่า”ลุงตู่”จะจัดการสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันนี้อย่างไร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news