สู้จนกว่าชนะ-วัคซีนไขว้
สู้จนกว่าชนะ-วัคซีนไขว้
แม้จะอยู่ในสภาพโดน ”ทัวร์ลง” ทั้งจาก “อดีตกองหนุนคนกันเอง” อย่าง ”ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์” ที่ถามหา ”คนเก่งที่ไม่โกง” หรือ จากประชาชนที่เดือดร้อน 2 มิติ ”โควิด-เศรษฐกิจ” ที่ยอดติดเชื้อโควิดเจ็บป่วยเสียชีวิตวันนี้ยังพุ่งแรงแบบไม่มีทีท่าจะกดหัวกราฟลงได้ที่เสียชีวิต 87 สะสม 2,934 ศพ ติดเชื้อ 9,317 สะสม 363,029 แม้จะมีมาตรการ ”ล็อกดาวน์” กรุงเทพฯปริมณฑล 10 จังหวัด มาตั้งแต่วันจันทร์ (12ก.ค.) โดย ”นายกลุงตู่” ยังคงกักตัว 14 วัน เพราะสัมผัสคนติดโควิดจากงานเปิด “ภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์” แต่ก็ยังแข็งใจสู้ต่อ พยายามส่งสัญญานว่ายังไหว ”ไม่ลาออก” อีกครั้งเมื่อวาน(13ก.ค.)โดยบอกว่า “จะไม่มีวันยอมแพ้ ต่อสงครามครั้งนี้”
“ขอให้ทุกคน ไม่ยอมแพ้ ต่อช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมและรัฐบาลจะหาทางช่วยทุกท่านให้ได้มากที่สุด และจะไม่มีวันยอมแพ้ ต่อสงครามครั้งนี้ ไม่ลดละเลิกล้มความพยายาม ไม่ว่าจะมีอุปสรรคหรือปัญหาใดๆ และจะสู้จนกว่าเราจะเอาชนะได้”
ที่การส่งสัญญานดังกล่าวเหมือนปฏิเสธต่อสภาพแรงกระเพื่อมที่กำลังเกิดขึ้นในรัฐบาลจากสถานการณ์โควิดที่”นายกลุงตู่”ถูกรุมถล่มว่าล้มเหลวทุกมิติ ในการบริหารสถานการณ์ “ศึกโควิด”แบบ”ซิงเกิ้ลคอมมานด์”ผ่าน”ศบค.” จนทำให้บานปลายสู่”เวฟ4”สายพันธุ์ดุ “เดลตา”บุกกรุงเทพและอีกหลายจังหวัด มีผู้เสียชีวิต เจ็บป่วยจำนวนมาก ที่การออกมาตรการ “เซมิล็อกดาวน์”ปิดแคมป์คนงาน ล้อคร้านอาหาร ไม่ได้ผลแต่กลายไปซ้ำรอย “สงกรานต์” ที่ปล่อยให้เชื้อกระจายจากรุงเทพไปสู่ต่างจังหวัด พราะไอเดียวมท.1แก้ปัญหา ”คอขวด” เตียงรักษากทม.ไม่พอ จนไหลมาสู่สภาพที่ ศบค.ยอมรับว่าหากไม่มีมาตรการใดใน 2 วีคนี้มีโอกาสพุ่งเลยหมื่น ก่อนจะออกมาตรการ”ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว”เวิร์กฟอร์มโฮม กทม.และ 10 จังหวัดออกมา พร้อมๆกับ 4 มาตรการจากคณะกรรมการควบคุมโรคระบาด
โดย ”คุณหมอ” หลายท่าน บอกว่า “ล็อกดาวน์” ช่วยได้บ้างแต่ไม่ทั้งหมด เพราะคนละสภาพกับต้นปี 2563 ที่ครั้งนั้นคนติดเชื้อหลักร้อยและสายพันธุ์ไม่รุนแรงและเร็วเท่าครั้งนี้ และ ”หมอ” ก็ยังยืนยันว่าการเร่ง “ฉีดวัคซีน” เป็นทางออกที่มีและต้องทำเร่งด่วน เพื่อรับมือ ”สายพันธ์ใหม่” ที่แรงกว่าได้ และ บรรเทาภาวะวิกฤติที่กำลังลุกลามทำให้ “ระบบสาธารณสุขล่ม” จากภาวะการระบาดมีคนไข้หนักจากการติดเชื้อสูงเฉียดหมื่นทุกวัน ดังภาพน่าหดหู่ “คนแก่เด็กติดโควิดรอเตียงและเสียชีวิต” ภาพ การแห่ไปรอตรวจโควิดจำนวนมากแต่ยอดตรวจรวมต่อวัน ก็ยังน้อยมาก สวนทางยอดผู้ติดเชื้อ ที่ทำให้ ”หมอใหญ่” หลายท่านคาดการณ์ ว่ายอดโควิดจริงอาจมีการกว่า 2-3 เท่า แบบที่ว่าหากมีการรุกตรวจจริงๆจะเห็น
ที่น่าสนใจคือใน 4 มาตรการ ที่มีการพูดถึงการฉีดวัคซีนไขว้ ซิโนแวค-แอสตร้า ที่กำลังถกเถียงกันกับข้อมูลคำเตือนขององค์การอนามัยโลกนั้น ด้านหนึ่งก็น่าสนใจกับข้อสังเกตจากคุณหมอ ”น.พ.มนูญ ลีเชวงวงศ์” หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ที่เคย”ผมตั้งคำถามบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ว่าทำไมไม่ปรับลดโดสการฉีดวัคซีนให้เหลือเข็มเดียวสำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนาในภาวะที่มีวัคซีนไม่เพียงพอที่ยังออกมายืนยันเมื่อวาน(13ก.ค.)ว่า ทางออกเดียวตอนนี้ คือเร่งปูพรมฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดเดี๋ยวนี้ เพราะแม้ยอดฉีดตอนนี้ 12 ล้านเข็ม แต่เข็มแรก ไม่ถึง 9 ล้านคน ยังน้อยไป ควรต้องฉีดให้ได้ 50 ล้านคนเข็มแรกหรือมากกว่านั้น และยังยืนยันว่า แอสตรา เข็มเดียว ก็พอสู้เชื้อเดลตาได้ แถมมีระดับภูมิคุ้มกันอยู่ได้นานถึง 180 วัน ทันกับการมาของวัคซีนเวอร์ชั่นใหม่ ดังที่ บ.แอสตราฯ เพิ่งแถลงรายงานจาก ม.อ๊อกฟอร์ดถึงระดับภูมิคุ้มกัน
ดังนั้น เมื่อเรามีวัคซีนไม่พอ ถ้าสำรองกั๊กไว้ไม่ให้ฉีด จะไม่ทัน ควรเร่งฉีดกลุ่มเสี่ยง 17 ล้านคน ที่ตอนนี้ฉีดไปได้แค่ 3-4 ล้านคนให้ได้ โดย”หมอมนูญ”ยังบอกด้วยว่า การฉีด ”วัคซีนไขว้” เข็มแรก SV เข็ม2 เป็น Az นั้นอาจเป็นเพราะ AZ มีไม่พอ เลยเอา Sv มาขัดตาทัพ เพราะ Az เข็มเดียวก็ภูมิสูงกว่า SV 2 เข็ม แม้จะน้อยกว่า SV 2เข็ม+Azเข็ม3 อย่างไรก็ตาม ยังไงก็เห็นว่า ต้องฉีดวัคซีนไว้ก่อน ยี่ห้ออะไรก็ได้ระหว่างนี้ เพราะอาจติดเชื้อได้ซึ่งอันตรายกว่าไม่ฉีดอะไรเลย
ที่อย่าลืมว่าประเด็น “วัคซีนไขว้” หรือ ”ค๊อกเทล” นั้นยังมีปัญหา ว่า วัคซีน SV ที่รัฐบาลเพิ่งสั่งซื้อเพิ่ม 10.9 ล้านโดส จากที่ซื้อแล้ว 9 ล้านโดสและรัฐบาลจีนให้อีก 1 ล้านโดสจะเฝือเหลือหรือไม่จากที่เริ่มมีคนชักไม่อยากฉีดSV เข็ม 1 อย่างเช่นเคสของ จ.นนทบุรี เพราะภูมิยังไม่ขึ้นต้องเบิ้ล และสู้ Az ที่ส่งให้ไทยแบบกระท่อนกระแท่นไม่ได้
เรียกว่า สภาพการณ์ประเทศไทยที่ถูกถามมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ในสถานการณ์ “สงครามโควิด” มาถึงจุดที่ “ศูนย์อำนาจ” ถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่ายรวมถึงประชาชนที่ไม่พอใจ จนโหมดการเมืองเริ่มขยับ คนแดนไกล อย่าง ”โทนี่ ทักษิณ” ที่ถือจังหวะโชว์เหนือ ออกมาประกาศพร้อมเป็นที่ปรึกษาทำศึกโควิดให้แบบเวิร์คฟอร์มดูไบประชุมผ่าน Zoom และ เดาใจ “นายกฯลุงตู่” ว่า จะยื้อความเปลี่ยนแปลงการเมืองแบบ ยุบสภาฯหรือลาออก ทนทาน ดึง ได้นานสุด ต้นปีหน้า เร็วสุด ปลายปี โดยคาดว่าจะมีเลือกตั้ง ในเดือนก.พ.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news