หมอไม่ทน-คนตายข้างถนน
@ในท่ามกลางศึกโควิดที่เต็มไปด้วยความสูญเสีย นอกจากเสียงร่ำไห้ของครอบครัวผู้สูญเสียแล้ว เสียงที่ทุกคนได้ยินก้องในโสตประสาทคือเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของผู้ป่วยจำนวนมากที่ล้นทะลักออกมานอกโรงพยาบาลริมถนนอย่างกรณีโรงพยาบาลสระบุรี เช่นเดียวกับภาพของ “ความตาย” ที่ทุกคนได้เห็นทุกวัน ไม่เฉพาะแต่ภาพความตายของ “ผู้ป่วยรอเตียง”ในบ้าน หากแต่ล่าสุดเมื่อวาน(20ก.ค.) ยังมีภาพ “ความตายข้างถนน” ที่ “ศพโควิด”ถูกปล่อยทิ้ง12ชั่วโมงข้างวันบวร และศพหน้าศึกษาภัณฑ์ริมถนนราชดำเนิน และ ศพหน้าโลตัสพระราม4 ที่ไม่แต่ “คุณหมอด่านหน้า” พรรคฝ่ายค้าน อดีตกองหนุนคนกันเอง หากแต่ยังมี ผู้คนในสังคม ดาราศิลปิน บุคคลที่มีชื่อเสียง ที่ออกมา “คอลเอาท์” “นายกรัฐมนตรี” รวมถึงรัฐมนตรีสธ.และผู้คนในรัฐบาล จนถูกหน่วยงานรวมถึงนักการเมืองขู่ดำเนินคดีฐานปล่อย”เฟกนิวส์”
@ที่พวกเขาตั้งคำถาม ทั้งถามกับตัวเอง และถามผู้เกี่ยวข้องในฟังก์ชั่นของระบบสาธารณสุขประเทศว่า “ประเทศไทยเรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร” กับสถานการณ์วิกฤติประเทศจากโรคระบาดโควิด อย่างที่ชั่วชีวิตคนๆนึงจากวัยกลางคนถึงเกษียณอายุ ยังไม่เคยประสบพบเจอกับภาพการเจ็บป่วยล้มตายขนาดนี้ ซึ่งถือเป็นวิกฤตอันตรายที่ยังดำเนินต่อไปแบบยกระดับจำนวนความสูญเสียทุกโมงยาม ดังตัวเลขนิวไฮล่าสุดวันนี้(21ก.ค.)ที่มีผู้ติดเชื้อพุ่งไปที่ 13,002 เสียชีวิต 108 ศพ ที่เมื่อย้อนถอยกลับไปเอาแค่ 21วัน ของเดือนนี้ มีผู้ติดเชื้อสะสมถึง 180,176 ราย ขณะที่ มียอดผู้เสียชีวิตสะสมถึง1,587 ราย
@ที่สภาพวิกฤติดังกล่าวนำมาสู่การใช้มาตรการในโหมด “ความมั่นคง” ที่ถนัดผ่านการใช้ พรก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาล ศบค. โดยการประกาศ “ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว”14วันตั้งแต่เมื่อวาน(20ก.ค.) ที่วันเดียวกัน”นายกฯลุงตู่”ออกมาโพสเฟซบอกว่า กำลังทำศึกโควิดฯ โดยกรุงเทพปริมณฑลและ 13 จังหวัด ถือเป็น “สมรภูมิรบ” ที่ต้องเอาชนะให้ได้
เพราะสถานการณ์มาถึงจุด “หัวเลี้ยวหัวต่อ” อีกครั้ง อ้างประเทศไหน ก็หนัก ถือเป็น โชคร้ายของชาวโลก ที่ไวรัสโควิดยังไม่หายไปแต่ดันกลายพันธุ์จนติดกันในครอบครัวคนรู้จักก่อนต่อว่ามีพวกที่กระทำตัวเป็นภาระของส่วนรวม ฝ่าฝืนกฎหมาย เพิ่มความเสี่ยง โดนขอให้ประชาชนอดทนกันอีกครั้งล็อกดาวน์ตัวเอง ตนมีความทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง ที่เกิดผลกระทบ พร้อมขอสัญญาว่าจะดูแลอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยตนและรัฐบาล จะยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเต็มที่ต่อไปอย่างพร้อมรับทุกคำวิจารณ์เพื่อดูแลประชาชน
@ขณะเดียวกันในมิติการเมืองโควิด ก็มีรายงานจากที่ประชุมครม.WFH ว่า ช่วงตอบคำถาม”นายกลุงตู่”เหมือนหงุดหงิดเมื่ออ่านคำถามของนักข่าวถามมาโดยอ่านให้ที่ประชุมฟัง ทั้ง คำถาม “หมอหนู” เป็น แพะรับบาปเรื่องการจัดหาวัคซีน พรรคร่วมรัฐบาลลอยตัว โดดเดี่ยว นายกฯ และ การเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาล โดย”ลุงตู่” บ่นดังว่า “ถามแบบนี้ จะให้ตอบยังไงก่อนทิ้งทุ่นว่า “ผมไม่ได้ทำงานคนเดียว เราทุกคนช่วยกันทำงาน ตนไม่คิดว่าเป็นเวลาของการเล่นการเมือง ถ้าท่านจะออกจากตน ก็แล้วแต่ ตนก็จะทำงานของผมต่อไปและว่า “ผมไม่ทิ้งคุณ พวกคุณจะทิ้งผมก็ตามใจ”ซึ่งก็เป็นที่มาทำให้”หมอหนู”ออกมายืนยันวันนี้ว่า ภูมิใจไทยไม่คิดจะทิ้งรัฐบาล
@กระนั้นในมิติของการทำศึกโควิดที่หัวใจสำคัญอยู่ที่นักรบด่านหน้าอย่าง ”บุคลากรทางการแพทย์” ก็น่าสนใจในความเคลื่อนไหวที่เกจิการเมืองหลายฝ่ายให้จับตาปฏิกริยาของ ”หมอ600” บุคลากรทางการแพทย์กว่า 600 คน จากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ออกมา”เปิดหน้า”เข้าชื่อ แสดงจุดยืนและเรียกร้องให้มีการจัดหาและจัดสรรวัคซีนประสิทธิภาพสูง
รวมทั้งขอให้รัฐบาลเปิดเผยขั้นตอนการดำเนินการอย่างโปร่งใส ที่กำลังก่อแรงกระเพื่อมไปยังปฏิกริยาของบุคลากรการแพทย์อีกโรงพยาบาลระดับโรงเรียนแพทย์ที่อยู่ไม่ห่างกัน แบบที่เป็นปรากฎการณ์ “หมอไม่ทน”ของจริง ที่อาจ ส่งผลอย่างใดอย่างหนึ่งทางการเมืองของ”ศูนย์อำนาจ”ให้ยิ่งไม่สบายใจขึ้นไปอีกไม่แต่ความสอดคล้องของสถานการณ์การเมืองภายใน ในระหว่างความวิกฤตประเทศที่มีชีวิตประชาชนเป็นเดิมพัน ที่กำลังไหลไปสู่ไทม์มิ่งที่หมอดูหลายคนทำนายทายทัก ความสุ่มเสี่ยงในการประคองตัวก้าวข้ามผ่านความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองห่วง เดือนกันยายนไปให้ได้ของใครบางคน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
