อยู่ต่อห้ามแกล้งตาย
ในขณะที่สถานการณ์โควิดยังพีคต่อไม่รอล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว ไม่สน ว่า ใครจะอยู่ต่อ หรือ ใครจะตาย หรือแกล้งตาย โดย ยอดตัวเลข ตาย-เจ็บอย่างเป็นทางการจากศบค.วันนี้ (30ก.ค.) อยู่ที่ 17,345 สะสม 549,512 เสียชีวิต 117 ราย ท่ามกลางแพนิกของประชาชนผู้คนที่ไม่รู้วันไหน ”โควิด” จะเคาะประตูบ้าน บุกเข้ามาคร่าชีวิตคนในครอบครัว แบบที่มีให้เห็นรายวัน กับภาพสลดใจกับ การเสียชีวิตในบ้าน และ นอกบ้านริมถนนหนทาง เช่นเคสเมื่อวาน(29ก.ค.) 3 พี่น้องสูงวัย ที่น้องสาวคนกลางติดโควิดนอนหายใจรวยรินข้างโต๊ะกินข้าวในบ้าน เฝ้าศพพี่ชายและน้องชายที่เสียชีวิตไปแล้วหลายวัน จนชาวบ้านเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ ไม่นับรวมเคสที่ผู้คนพบเห็นและถ่ายคลิปมาลงโซเชียลเพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบและเข้าไปจัดการทั้งที่เป็นศพข้างถนนเพราะโควิด หรือเพราะสาเหตุอื่น รวมถึงผู้คนที่ไม่เสียชีวิตแต่เจ็บป่วยเป็นลมล้มข้างถนนในนร้านสะดวกซื้อหรือสถานที่สาธารณะ ในสภาพที่ต้องยอมรับว่า”ระบบสาธารณสุข” ของประเทศกำลัง ”วิกฤติ” หันมา ”โฟกัส” สงครามโควิด จนกระทบเป็นโดมิโนกับผู้คนที่เจ็บป่วยด้วยโรคอื่นที่ต้องเว้นวรรคการเข้าไปพบหมอที่โรงพยาบาลที่ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยอื่นๆได้
ที่ภาพการเจ็บป่วยล้มตายของผู้คนดังกล่าวปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลกระทบต่อ ”รัฐบาล” ในฐานะผู้มีหน้าที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่ต้องรับทั้งผิดทั้งชอบ โดยเฉพาะผู้นำอย่าง ”นายกฯลุงตู่” ที่เมื่อวานยังคงยืนยันผ่านการให้สัมภาษณ์พิเศษ 36 นาที ผ่าน ผอ.สำนักโฆษกสำนักนายกฯรัฐมนตรี ที่นำคำถามจากสื่อมวลชนไปถาม ว่า จะ ไปต่อ! ไม่ถอดใจ โดย ตอบเป็นนัยว่า “ยังไม่ใช่เวลา หรอกจ้ะ” ปม ถอดใจ หลังถูกวิจารณ์อย่างหนัก กระแสกดดันให้ ลาออก เพราะแก้ “โควิด”ล้มเหลว โดยยืนยันว่าระบบไม่ได้ล้มเหลว
ถ้าระบบล้มเหลว….เราคงเป็นมากกว่านี้ เพราะ สถิติคนติดเชื้อ-คนตายของไทยก็ไม่ได้มากไปกว่าหลายประเทศ โดยนายกฯยังย้ำถึงเรื่อง ”คนตายข้างถนน” ว่า บอกแล้วว่าไม่อยากให้ป่วยเจ็บตายอยู่ในบ้านหรือข้างนอกบ้าน แต่ทุกคนต้องช่วยกัน อย่างน้อยแจ้งให้เร็ว ถ้าเขาไม่มาก็แจ้งไปหน่วยทหาร แจ้งไปโรงพัก เดี๋ยวเขาก็มา อย่างน้อยตำรวจพื้นที่ก็ต้องมาก่อน แต่การจะขนย้ายต้องรอชุดขนอีกทีก็ต้องช่วยกันตอดตาม ก่อนเตือน นักการเมือง ฉวยโอกาสบิดเบือน ทำไขว้เขว อย่าสร้างความเกลียดชัง วันนี้นายกฯทำงานอย่างหนักทุกวัน ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด เห็นใจ เสียใจ ที่มีประชาชนเสียชีวิต
ขณะเดียวกันก็น่าสนใจที่แม้ ”นายกฯลุงตู่” จะ ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับสื่อ จากปม ที่ 6 องค์กรสื่อมมวลชน ออกมาแถลงการณ์คัดค้านการควบคุมการนำเสนอข่าวสาร โดย ”นายกฯลุงตู่” บอกว่า รับฟังทุกฝ่ายจะทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ ตรงไหนไม่ดี ก็ต้องไปแก้ตรงนั้น ฝากสื่อด้วยก็แล้วกันตนไม่มีปัญหา แต่ขณะในเย็นวันเดียวกัน (29ก.ค.) ก็ มีประกาศข้อกำหนด ควบคุมการเสนอข่าวของสื่อ ในราชกิจจานุเบกษา ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 29) ที่ลงนามโดยพลเอกประยุทธ์ ออกมา โดยประเด็นที่ฮือฮาคือ “การห้ามเสนอข่าว”ที่อาจทำให้ประชาชนหวาดกลัว” หรือเจตนาบิดเบือน โดยให้อำนาจ กสทช.แจ้งผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตสั่งระงับ และให้ส่งตำรวจดำเนินคดี” ซึ่งประกาศนี้มีผลวันนี้( 30 ก.ค.)
ที่ประกาศดังกล่าวส่งผลทำให้เกิดแรงกระเพื่อมแรง ไม่แต่เฉพาะใน แวดวงสื่อมวลชน แต่ยังรวมถึง ”ประชาชน” ที่ใช้โซเชียล โดยที่เป็นประเด็น ”คู่ขนาน” เมื่อวาน กรณีในโลกโซเชียล มีการออกมากระจายข่าว โดยมีการแคปภาพคลิป ”การเจ็บป่วยล้มตายข้างถนน”มาโพสพร้อมข้อความทำนอง อย่าแชร์ภาพคลิปดังกล่าว เพราะรัฐบาลกำลังตามจับอยู่ มีการรับจ้างไปล้มที่ต่างๆ ถ่ายส่งคลิป ส่งแล้วก็ลุกจากไป แชร์อยู่ในไลน์สมาชิกคณาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โดยพรรคที่อยู่เบื้องหลัง ใช้วิธีจ้าง “ออกาไนเซอร์” จัดม็อบ หากพร๊อพ หาพริตตี้ มา แอคติ้ง ตามที่ออกแบบไว้ตลอดมา ที่ก็สอดรับกับ มีการออกมาจาก ”ฟากฝั่งรัฐบาล” ตั้งแต่ทีมงานส.ส.หญิง พปชร.ที่ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ตั้งข้อสังเกตว่ามีขบวนการเด็กเลี้ยงแกะแถลงตายข้างถนนสร้างความตื่นตระหนกให้สังคมระวังจะถูกดำเนินคดี ซึ่งก็สอดรับจากทีม สว.ท่าหนึ่งที่ออกมาให้ข้อมูลทิศทางเดียวกัน
ที่อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ “นายกฯลุงตู่” มีการสั่งการ ให้ทุกกระทรวง”รวมถึงกระทรวงดีอีเอส.เอาจริง ตั้งวอร์รูม มอนิเตอร์ ข่าวเฟคนิวส์”อย่างจริงจังและให้รายงานตรงนายกฯก่อนประชุมครม.ทุกครั้ง ถึงขนาดมีรายงานว่าใครทำไม่ได้ให้ลาออกไปที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่าน่าจะเอากำลังคนเหล่านี้ไปช่วย”หมอด่านหน้า”และฝ่ายต่างๆสู้ศึกโควิดมากกว่า… ที่ทั้งหมดต้องติดตามต่อไปว่าอาการที่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมนี้ที่ถูกประเมินว่าเกิดจาก ”เอฟเฟ็กต์” ความกังวลผลกระทบทางการเมืองในจุด”อับสัญญาน”ความชอบธรรม ของ ”ศูนย์อำนาจ” จะส่งผลอย่างไรต่อไปต่อ ”นายกฯลุงตู่” ที่ยังยืนยันอยู่ต่อเพื่อสู้ ”ศึกโควิด” จากนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news