คลื่นความถี่ม็อบไล่นายกฯ
คลื่นความถี่ม็อบไล่นายกฯ
ในจังหวะการฉายภาพซ้ำย้ำความผิดพลาดล้มเหลว ของรัฐบาล ที่บริหารจัดการแบบซิงเกิลคอมมานด์ ผ่าน ศบค. โดย “นายกฯลุงตู่” ที่ถูกหลายฝ่ายโจมตีอย่างหนัก นับแต่ การระบาดในรอบล่าสุดของโควิดสายพันธุ์เดลตา ที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตประชาชนอย่างรุนแรง ที่แม้ล่าสุดจะมีการใช้มาตรการ ”ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว” 13 จังหวัด มาตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.และ มาขยายเป็น 29 จังหวัด 3 ส.ค. แต่ก็ยังไม่ทำให้ลดลงแต่กลับเพิ่มเป็น 2 หมื่นติดต่อกัน ก่อนจะมาลดลงช่วง3วันที่ผ่านมา ในขณะที่ ”การบริหารจัดการ” ทั้ง การป้องกันโดยการฉีดวัคซีน-การตรวจ-การรักษา รวมไปถึง มาตรการรองรับผลกระทบสังคม-เศรษฐกิจ ระหว่างการล็อกดาวน์ไปจนถึง 31 ส.ค. จากจะถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้ไช้ประโยชน์โดยการ ”รุกตรวจ” เพื่อแยกผู้ติดเชื้อให้เห็น ”รุกฉีดวัคซีน” เพื่อสร้างภูมิขนานไปกับการติดเชื้อ
ไม่เท่านั้น ยังถูกวิจารณ์ว่า ”ไม่มีแผนรองรับ” จนทำให้เกิดภาพแก้ปัญหารายวัน ทั้งประเด็น ”วัคซีนบริจาค” ไฟเซอร์ ที่ทำให้ ”หมอด่านหน้า” น้อยใจ และประเด็น “ยาฟาวิฯ” รักษาโควิดที่ติดทั้งระบบการเบิกใช้ของหมอ เพราะมีจำกัดจำเขี่ย คล้ายเคสวัคซีนมาตัวเดียว ที่มีน้อย จนทำให้ ”มาตรการโฮมไอซูเรชั่น” ผู้ป่วยเขียวรักษาตัวอยู่บ้าน ที่มาช่วยแก้ ปัญหารอเตียงตาย ของผู้ป่วยเหลือง-แดง เกิดปัญหาเป็นโดมิโน่ กลายเป็นภาพผู้คนเสียชีวิตในบ้าน ทำให้ ทุกฉาก ”ทุกผลลัพธ์” การตายเจ็วของผู้คน ถูกมองว่าเป็นเพราะ ศบค.นายกฯ โดยเฉพาะ ตัวเลขเจ็บตายจาก ”โควิด” ที่กดไม่ลง และมีการจับตาว่ากลางเดือนส.ค.จะเป็นไปอย่างที่มีการคาดการณ์ตัวเลขตายเจ็บมากกว่าปัจจุบัน ที่วันนี้(10ส.ค.)ยอดเสียชีวิตนิวไฮที่ 235 ศพ ติดเชื้อ 19,843 หายป่วย 22,806 ราย
ที่สภาพการณ์ แบบยังไม่มีอะไรดีขึ้นจากมาตรการ เริ่มมีหลายฝ่ายออกมาแสดงความเห็นหรือคอลเอาท์อีกครั้งเช่นในรายของ ”ต๊อด ปิติ ภิรมณ์ภักดี” ที่ออกมาโพสผ่านเพจ Piti Pirompakdee วันนี้ (10ส.ค.) หลังเห็นตัวเลขนิวไฮผู้เสียชีวิต ว่า หมดความอดทนแล้ว สงสารคนไทย ศบค.พูดชัด ว่า วัคซีนทำให้จำนวนคนตายลดลง แล้วทำไม่ถึงเลื่อน ทำไมถึงฉีดไม่ได้ตามเป้า วัคซีนหายไปไหน รักกันมากๆหน่อยสิ เตือนไว้ก่อนด่ามาจะด่ากลับ หมดความอนทนแล้วเหมือนกัน ไม่ต้องชื่นชมหรือมาซื้อของบริษัทตน ตนแค่ทำหน้าที่คนไทยคนนึงที่อยากเห็นสิ่งที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ”ต๊อด” ยังโพสต์ในคอมเมนท์ว่า ตนแค่อยากให้นายกฯแวะไปโรงพยาบาลสนาม กับแผนกICU สัก2-3แห่ง เพื่อจะคิดอะไรออก เรียกว่า ภาพของการหมดความอดทนของ ”ต๊อด” สอดรับกับอารมณ์ผู้คนที่ได้รับผลกระทบที่บางส่วนมีการแสดงออก ที่ในจังหวะวันนี้ (10ส.ค.) เกิด ”รูระบาย” ปรากฏผ่าน ”คาร์ม็อบ” ที่จัดโดยกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่กลางเมืองแยกราชประสงค์ ต่อจากภาพ ”ม็อบ7ส.ค.” ที่ชู 3 ข้อเรียกร้องนายกฯลาออก ปรับงบกองทัพ และ เรียกร้องวัคซีนmRna ที่แม้วันนี้ จะไม่มีแกนนำ ”ตัวจี๊ด” อย่าง ”เพนกวิน” มาเพราะติดถูกศาลเพิกถอนประกันและให้ควบคุมตัว เช่นเดียวกับ ”ไผ่” และ ”ทนายอานนท์” รวม 9 แกนนำ ในขณะก็มีคิวของ ”คาร์ม็อบ” ของ ”ณัฐวุฒิ” ที่นัดวันที่ 15 ส.ค.ก่อนวันที่ ”ฝ่ายค้าน” จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจากปมโควิด ก่อนที่สภาจะนัดประชุมพิจารณางบประมาณวาระ 2-3 วันที่ 18-20 ส.ค.
โดยประเด็น ”ม็อบไล่นายกฯ” ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก คนเสื้อแดง และ อีกหลายกลุ่ม เช่น ”ไทยไม่ทน” และกลุ่มอดีตคนกันเองอย่าง ”ทนายนกเขา” เริ่มมีการจับ ”สัญญาณ” ว่ามีความพยายามจากฝ่ายรัฐ ในการใช้ยุทธศาสตร์ในการแยกแกนนำและแยกประเภทม็อบเช่นม็อบ7ส.ค. ว่าเป็น ”ม็อบรุนแรง” มีธง “ทะลุเพดาน” ออกจาก ”ม็อบกระแสไล่รัฐบาลล้มเหลวโควิด” ด้วยการเอาจริงทั้งกฎหมายและการปราบปรามดุดันกับม็อบ แต่ในขณะที่ ยุทธศาสตร์กลุ่มม็อบราษฎร กำลังทำให้เป็นกระแสเดียวกันและแรงขึ้น โดยสะท้อนผ่านการใช้อำนาจ ใช้กำลัง ความอยุติธรรม ให้เป็นเรื่องเดียวกับโควิด การโจมจีรัฐบาลล้มเหลว ทำให้คนเสียชีวิต กำลังถูกฝั่งม็อบ ทำให้เป็นเรื่องเดียวกับการปกป้องสิทธิเสรีภาพ โดยจะทำให้เกิด ม็อบไล่ไม่มีหยุด ไม่ว่าใครมาเป็นเจ้าภาพจัด หรือใครที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อนจะเข้ามาร่วม แบบกลายเป็นคลื่นสัญญานความถี่เดียวกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news