ธาตุไฟแทรกกลางศึกโควิด
ธาตุไฟแทรกกลางศึกโควิด
ตีโอบกระหนาบรุก ”ศูนย์อำนาจ” ที่นำโดย ”นายกฯลุงตู่” ผู้บริหารแบบ ”ซิงเกิ้ลคอมมานด์” ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวเข้ามาทุกขณะ กับ ขบวนการเคลื่อนไหวให้ “รับผิดชอบ”ต่อความผิดพลาดล้มเหลว การจัดการสถานการณ์วิกฤติโรคระบาดโควิด ที่ทำให้ผู้คนเจ็บป่วยเสียชีวิตจำนวนมาก แบบที่วันนี้(13ส.ค.) ”หญิงหน่อย” ”สุดารัตน์” พรรคไทยสร้างไทย นำรายชื่อประชาชน 7 แสนไปยื่นฟ้องรัฐบาลโดยโฟกัสที่ ”นายกฯลุงตู่” คนเดียว ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เหตุเพราะ ล้มเหลวในการบริหารสถานการณ์โควิด จากความบกพร่องอย่างร้ายแรงของนายกฯที่ปล่อยปละละเลยจนเกิดการแพร่ระบาดถึง 4 ระลอก รวมทั้งบริหารจัดการวัคซีนผิดพลาดบกพร่องทำให้จํานวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนระบบสาธารณสุขปกติไม่สามารถรองรับผู้ป่วยจํานวนมากดังกล่าวได้ ทำให้ผู้ป่วยบางรายไม่ได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาลเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่สาธารณะหรือบ้านพักตนเอง
นอกจากนี้ ยังระบุ ถึงการ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ตั้งแต่ 26 มี.ค.63 และ ขยายเวลาจนถึงวันที่ 30 ก.ย.64 โดยรวมอำนาจรักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับไว้ที่ตนเพียงผู้เดียว แต่กลับปล่อยปละละเลยจนเกิดความเสียหาย ถือเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
เรียกว่าซีกการเมืองฝ่ายค้านเริ่มจัดชุดใหญ่มาเป็นละลอกหลังวันก่อน (10ส.ค.) พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีการไปยื่นร้องปปช.เพื่อไต่สวนเอาผิดถอด”นายกฯลุงตู่”จากนายกฯ เหตุใช้อำนาจโดยมิชอบตาม พ.ร.ก.บริหารราชการฉุกเฉิน ออกข้อกำหนดที่ 29 ตามม.9 พรก.ฉุกเฉิน ห้ามสื่อมวลชนเสนอข่าวน่ากลัวสถานการณ์ระบาดของโควิด ที่ต่อมาศาลแพ่งมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว จนรัฐบาลมีการยกเลิกประกาศดังกล่าว ที่ยังไม่นับรวมถึงการเคลื่อนไหวให้ดำเนินคดีตามกฎหมายจากหลายกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทั้งมิติความเจ็บป่วยและมิติของปากท้องเศรษฐกิจที่กำลังมีการขยับตามมา
ที่ไม่แปลกว่าจู่จู่วันก่อน จะมีปมเรื่องการเสนอ ร่าง พรก.นิรโทษธรรมโควิด ออกมาจาก สธ.และถูกคัดค้านจากหลายฝ่ายรวมถึง”หมอด่านหน้า”ที่มองไปที่”ฝ่ายการเมือง”และผู้เกี่ยวข้องการจัดหาวัคซีนที่เกิดปัญหาและทำให้สถานการณ์บานปลาย แม้ ”ผู้บริหารสธ.” จะอธิบายแล้วว่าเพื่อปกป้องบุคลากรแพทย์ แต่ก็ยังมีข้อระแวง ที่”หมอหนู”ต้องอธิบายซ้ำว่าไม่เกี่ยวกับการเพลย์เซฟของฝ่ายการเมือง และอธิบายย้ำเหมือ”ชี้เป้า”อีกวันนี้(13ส.ค.)ว่า ไอเดียนี้มาจากหมอ สธ.เสนอไม่เกี่ยวกับการเมืองไม่เกี่ยว ”นายกฯลุงตู่” ไม่ได้สั่งหรือคิดเรื่องนี้ อย่าไปเทียบหรือโยงกับ นิรโทษกรรมหลังรัฐประหาร ขออย่าเรียก พรก.นิรโทษกรรม ยังไม่มีใครทำผิด แต่เป็น พ.ร.ก. ปกป้องคนทำงานฯ ชื่อ พรก.จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขฯ
แต่นั่นก็ไม่เท่ากับประเด็นปัญหา”ความไม่ชอบมาพากล”ที่ปรากฎในช่วงนี้ทั้งประเด็นยาฟาวิฟิราเฟีย ที่เกิดขาดแคลนและกำลังมีการจัดซื้อ และ ประเด็นการจัดซื้อชุดตรวจATK8.5ล้านชุด 800 ล้าน ที่ สธ.ต้องออกมาอธิบายวันนี้ หลัง “แพทย์ชนบท” ติง ประสิทธิภาพ ยี่ห้อ ที่ชนะการประมูล ถูกอย.สหรัฐฯ สั่ง เรียกเก็บสินค้าออกจากตลาดสหรัฐอเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่ง คณะกรรมการ สปสช.ก็เคยแจ้ง2ยี่ห้อที่ได้รับการรับรองคุณภาพไปให้แล้วแต่กลับมีการสรุปออกมาโดยเอาราคาถูกเป็นตัวตั้งมากกว่าคุณภาพ ขณะเดียวกันมีผู้อ้างว่าได้เข้าไป ตรวจสอบฐานะการเงินของบริษัทผู้ชนะประมูล พบว่ามีรายได้หลักพันบาท และขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี ที่ปัญหานี้ทำให้มีการชะลอเพื่อตรวจสอบของสธ.
ขณะเดียวกัน ในจังหวะนี้ที่การเมืองกำลังรุม”นายกฯลุงตู่”ทั้งการขึ้นโรงขี้นศาลและเตรียม ”ซักฟอก” แถมยังมี “ม็อบเด็ก” ”ม็อบผู้ใหญ่” นัดชุมนุมไล่ทุกวัน ทำให้ประเด็นปัญหา”ทุจริต”การจัดหาเวชภณฑ์โควิดข้างต้นเหมือนเป็น ”ธาตุไฟแทรก” ล้อไปกับ ”ยืนงงในดงโควิด” ยิ่งเมื่อวาน(13ส.ค.)ยังมีกรณี ”หมอแอ้ม” หมอรังสีวิทยา จากรพ.ภูมิพล เสียชีวิตจากโควิด หลังจากต้องเสียคุณพ่อ คุณแม่ ไปไม่กี่วัน ที่หมอสิทธิพงศ์ หรือ “หมอเตี๋ยว””น้องชาย”ของหมอแอ้ม ขอใช้สิทธิ์พูดถึงการเสียชีวิตของพี่สาว ที่ก็ฉีดวัคซีน ซิโนแวค ครบ 2 เข็ม แต่ยังเสียชิวิต เพราะเป็นผลส่วนหนึ่ง มาจากนโยบายการผูกขาดวัคซีนของรัฐทำให้ภาคเอกชนไม่สามารถสั่งวัคซีนทางเลือกที่มีมาตรฐานสูงเข้ามาได้ โดยเรียกร้องว่า ถึงเวลาที่เราควรแก้บางกฎ เพื่อให้คนไทยได้วัคซีน “ที่มาตรฐาน” ที่จะพอป้องกันตัวเองได้ ถ้าออกกฎที่แก้ได้ จะมีบริษัท หรือ โรงพยาบาลมากมาย หรือแม้แต่หน่วยงานใดๆ ที่จะยินดีติดต่อเอง และเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ อย่างรวดเร็ว เพราะเราเสียเวลามามากเกินไปแล้ว กับคำว่ารอ วัคซีนที่มาตรฐาน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news