Home
|
ข่าว

ฟอกนายกฯ-ม็อบส.ค.

ฟอกนายกฯ-ม็อบส.ค.

 

ในจังหวะที่ “ศูนย์อำนาจ” แบบ “ซิงเกิ้ลคอมมานด์” ของ ”นายกฯลุงตู่” โดย ศบค.กำลังมึนกับปัญหาหน้างานนโยบาย ”สงครามโควิด” ที่วันนี้(16ส.ค.)ต้องเคาะในการต่อขยายมาตรการ ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว ออกไปหรือจะคลายล็อกบางพื้นที่ ในขณะที่วันก่อนเพิ่งมี“ข้อมูลอ้างอิง”การประเมินสถานการณ์ระบาด อย่างที่ “หมอทวีศิลป์” ฉายภาพให้ ทำใจ ว่า หากไม่คง ล็อกดาวน์ ต่อ ก็มีโอกาสเห็นตัวเลขตาย-เจ็บพุ่งกระโดดไป 4-5 หมื่นในครึ่งหลังเดือนส.ค.-ก.ย. โดยวันนี้(16ส.ค.)ยอดติดเชื้อยังสูงอยู่ที่ 21,157 เสียชีวิต 182 ราย

ขณะที่ อีกฟากข้าง ด้านการเมือง ”ฝ่ายค้าน” ก็ได้ฤกษ์ ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ”นายกฯลุงตู่” กับรัฐมนตรีกับ 5 รัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดที่เศรษฐกิจที่ล้มเหลวและมีปมการทุจริต ประกอบด้วย”หมอหนู”อนุทิน”, “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”รมช.คมนาคม, “เฉลิมชัย ศรีอ่อน”รมช.เกษตรฯ, สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัล โดยงวดนี้ “ฝ่ายค้าน”ออกตัวอ้างว่าเพราะโฟกัสจำเพาะ “จุดสลบรัฐบาล”เรื่อง “โควิด”เศรษฐกิจ และ เรื่องการทุจริตคอร์รัปชันเลย ไม่มีชื่อ “พี่ใหญ่” “พล.อ.ประวิทย์” และ “ผู้กองนัส” “ร.อ.ธรรมนัส” ที่วันก่อน(13ส.ค.) “ผู้กองนัส” เพิ่งออกมาเปรยดังทำนอง ยอมรับว่ารัฐบาลล้มเหลวการบริหารจัดการ “วัคซีน” โดยบอกว่า หลายคนมองรัฐบาลล้มเหลว วัคซีนแก้ไม่ได้ ตรงนี้ต้องยอมรับความจริงซึ่งรัฐบาลโดยส่วนที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งรัดดำเนินการ

กระนั้นแม้การยื่น ”ซักฟอก” จะเป็นเทกติกในการสกัดการ ”ยุบสภา” แต่ก็ยังมีไทม์มิ่งที่กว่าจะได้บรรจุวาระ 7 วัน และนัดเปิดอภิปรายกันจริงก็ในห้วงเดือนกันยายน ในขณะที่สถานการณ์ล่าสุดจากเรื่อง “โควิด” กำลังพีค มีประเด็นปัญหาการบริหารสถานการณ์ และ ปัญหาความไม่ชอบมาพากล ที่ ผู้คน ทั้งในแวดวงหมอด่านหน้า และ แวดวงประชาชน กำลัง ตรวจสอบ รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง ที่กำลังถูก มัดรวม เป็นเรื่องเดียวกันทั้ง ประเด็นปัญหา “วัคซีนแทงม้าตัวเดียว” ที่เป็น ต้นทางปัญหา มาถึง การประมูลซื้อ ชุดตรวจ ATK ที่กำลัง ถูก แพทย์ชนบทชี้เป้า และ ประเด็น ยาฟาวิพิราเวียร์ ที่ ประเด็นเหล่านี้ กำลังท้าทายการจัดการของ “นายกฯลุงตู่” ที่เวทีสภา จะมี รูระบาย ให้ส.ส.ได้ตรวจสอบแบบ ซ้อมใหญ่ในการ ซักฟอกรัฐบาลคือวันมะรืน 18-20 ส.ค. ที่มีการพิจารณา งบประมาณวาระ 2-3

ในจังหวะที่ ด้านนอก ก็น่าสนใจในโอกาสที่จะเกิด “จุดบรรจบ” เพราะ กำลังมีสถานการณ์ “ม็อบไล่นายกฯ” ของหลายกลุ่ม ที่ กำลังถูกจับตาและตรวจสอบตั้งข้อสงสัย “ปฏิบัติการดุดัน” เกิดการเลือดตกยางออกโดย “เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน” ที่ดำเนินการกับม็อบ หลังการประกาศยุติการชุมนุมในแต่ละครั้ง มาตั้งแต่ “ม็อบ7ส.ค.” 10 สิงหา, 11 สิงหา, 13 สิงหา และ “คาร์ม็อบ” 15 สิงหา ของ ”ณัฐวุฒิ” ที่มาถูก “จัดหนัก” นอกกำหนดการและหลังการประกาศเลิกการชุมนุมเช่นกัน กำลังทำให้ “ตำรวจ” ถูกต่อว่าอย่างหนัก อย่างที่เริ่มเห็นชาวแฟลตดินแดงออกมาโวยไม่พอใจที่ได้รับผลกระทบ ไม่นับรวมเสียงวิจารณ์กรณี “ลูกนัท” ที่ถูกยิงที่เบ้าตาจนตาบอด

 

ที่ประเด็น “ม็อบสิงหา” นักวิชาการ และผู้สังเกตการณ์ หลายฝ่าย ประเมินอย่างกังวล ว่า จะเกิดสภาพม็อบคู่ขนานคือทั้ง รูปแบบวุ่นวาย และ ม็อบสันติ ที่จะยากแก่การควบคุมหากเกิดการเลือดตกยางออกถึงขั้นสูญเสีย โดยส่วนหนึ่งมีการประเมินว่า ผู้คนมีความเจ็บปวด ไม่พอใจที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาโควิดและเศรฐกิจให้ได้ และยังมีครหา บริหารไปในทางที่ไม่โปร่งใสเป็นธรรม ทำให้รับไม่ได้ เมื่อเขาออกมาประท้วงอย่างสันติ แต่เผชิญกับการปราบปรามอย่างรุนแรง จากเจ้าหน้าที่รัฐชนิดถูกตั้งข้อสังเกตว่าเกินกว่าเหตุและขัดหลักมนุษยธรรมสากลหรือไม่ ผู้คนเหล่านี้ ย่อมเกิดการปกป้องตัวเองเมื่อถูกล่วงละเมิดร่างกาย ชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งสภาพอารมณ์สังคมแบบนี้ สภาพม็อบวุ่นวาย คู่ขนานกับม็อบสันติย่อมเกิดขึ้นอย่างเหลือวิสัยที่จะหยุดยั้งห้ามปรามได้ โดยฝ่ายแกนนำผู้ชุมนุมหรือใคร ดังนั้นการจะหยุดการปะทะรุนแรงที่ไม่แก้ปัญหา ไม่ก่อผลดี ต้องเริ่มจากฝ่ายรัฐ คือ พยายามอย่าส่งกำลังเจ้าหน้าที่ติดอาวุธไปเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมเพื่อไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บเสียหายและสูญเสียทั้งสองฝ่ายรวมถึงชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่อาจถูกลูกหลง

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube