ศึกหมอลาม-คดีทุจริตยา2
ศึกหมอลาม-คดีทุจริตยา2
เปิดฉาก ศึกซักฟอกวันแรก กับการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกลุงตู่” “หมอหนู” และ 4รัฐมนตรี ในท่ามกลาง “สัญญาณ” ความไม่ไว้วางใจกันเอง ในรัฐบาล ที่ส่งผ่านปฏิกิริยาเมื่อวาน (30ก.ย.) จากวงประชุมพรรคพลังประชารัฐ ที่มีรายงานสายตรงทั้งโทรศัพท์และส่งไลน์จากนอกห้องประชุมทั้งจาก “ทำเนียบฯ” และจาก ”บุรีรัมย์” ถึง ”หัวหน้าป้อม” ในระหว่างการประชุมที่มีปฏิกิริยาจากลูกพรรค อันสะท้อนถึง “น้ำหนัก” ประเด็นข่าวร่ำลือแผนการ โดดเดี่ยวผู้นำที่เพลี่ยงพล้ำ “โควิด” และ ปม ”ดีลการเมืองข้ามขั้ว” จนแปรผลเป็นปฏิกิริยาของ “น้องหนู” ที่เมื่อวานก็เข้าไปคุยกับ“นายกฯลุงตู่”ที่ทำเนียบฯเพื่อเก็ง “ข้อสอบโควิด” ก่อนออกตัววันนี้(31ส.ค.) ว่าเป็นคนโทรหา “พี่ป้อม” เมื่อวานไม่ใช่ ”เนวิน” ยืนยันไม่กังวลความเรียบร้อยในศึกซักฟอกที่ เหมือนคนจาก พรรค พปชร.จ้องขย่ม รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย เพราะคุยกับ “พี่ป้อม” ที่บอก ให้ “เชื่อพี่คนเดียว ไม่ต้องคุยกับใคร” เราต่างเป็นหัวหน้าพรรคด้วยกันก็ต้องเชื่อกัน ถ้าไม่เชื่อหัวหน้าพรรคแล้วจะไปเชื่อใคร
เรียกว่า “ศึกซักฟอก” จะเป็นปัจจัยเหตุสั่นคลอนรัฐบาลแค่ไหนยังต้องรอดูทั้ง เนื้อหาว่าจะเด็ดเหมือนคำในญัตติหรือไม่ รวมถึงต้องรอดู “คะแนน” วันลงมติวันที่ 4 ก.ย. หากแต่ระหว่างทาง มีความน่าสนใจในสารพัดตัวแปรแทรกซ้อน ที่ จะส่งผลกระทบกับ “นายกฯลุงตู่” และ “หมอหนู” ที่จะตกเป็น “เป้าตำบลกระสุนตก” ระหว่างที่ถูกถล่มด้วยข้อมูลในสภาฯ คือ ความจริงตรงหน้า กับ สถานการณ์โควิดทั้งมิติผลกระทบชีวิตสุขภาพและปากท้อง ที่แม้พรุ่งนี้ (1ก.ย.) จะมีบรรยากาศการ “คลายล็อก” และเปิดทำเนียบฯให้ “นักข่าว” เข้าวันแรก เพื่อส่ง “สัญญาณบวก”ทางด้านความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ ล้อไปกับตัวเลขติดเชื้อโควิดที่ลดลงต่อเนื่องมา1สัปดาห์จาก2หมื่นกว่าเหลือหมื่นกว่า แม้ยอดตายยัง “ทรงตัว” ที่ 200 กว่า แต่ก็ยังถูกหลายฝ่าย “จับผิด”ตั้งข้อสงสัย ว่า “ดีขึ้นแล้ว” ตาม “สัญญาณ”ที่ถูกส่งออกมาจริงหรือ โดยมำคำถามมากมายอย่างกังวลหากสภาพการณ์กลับมามี “คลัสเตอร์ใหม่”จากการคลายล็อก ที่จะไปซ้ำเติมของเดิมที่ตัวเลขตายสะสมหมื่นกว่า ติดเชื้อกว่าล้าน และยังมีผู้ยังอยู่ระหว่างรักษาในระบบสาธารณสุขจำนวนมาก
นั่นก็เป็นประเด็นที่ทุกคนต้องประเมินแบบรายวันนับจากวันคลายล็อกพรุ่งนี้..ว่าจะโอเคหรือไม่ แต่ที่น่าจับตา และ น่าจะ “บานสะพรั่ง”เป็น “ประเด็น”ผลกระทบ ไม่น้อยไปกว่าสถานการณ์สงครามโควิด และศึกการเมืองในสภาขณะนี้ คือ “ศึกหมอ”ที่ก่อนตัวปะทุชัดเจนเมื่อวาน (30ส.ค.) ระหว่าง “หมอกระทรวง” กับ ”หมอชนบท” จากปมการจัดซื้อเครื่องตรวจโควิดATK 8.6 ล้านชุด ที่ทำท่าว่าจะลามกลายเป็นปม “ลมพัดหวน” กลับไปสู่อดีตที่เกิดเคสคดีประวัติศาสตร์ “ทุจริตยา” ในสธ. หลังจากที่ “นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์” ผอ.องค์การเภสัชกรรม ยื่น ปชช.ให้ตรวจสอบความผิดของคณะทํางานกําหนดอัตราค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มี “นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ” และ “นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ” เป็นคณะอนุกรรมการ กล่าวหาว่าทำผิดกฎหมายด้วยการล็อกสเป็ก ที่ทำให้ “ชมรมแพทย์ชนบท” “โดย “หมอสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ” ที่เคลื่อนไหวเปิดประเด็นตรวจสอบการประมูลชุดตรวจATKก่อนหน้านี้ออกมาระบุวันนี้ (31ส.ค.) ว่าการยื่นปปช.ดังกล่าว เพื่อแก้เกี้ยวที่องค์การเภสัชไปลดสเป็กโดยไม่ลดราคากลางจนทำให้ประมูลได้ของถูกราคาแพง ซึ่งชมรมแพทย์ชนบทระบุว่า ขอบคุณ “น.พ.วิบูลย์” ที่ช่วยทำให้เรื่องที่กำลังจะจบนี้ไม่จบ และช่วยทำให้ “แพทย์ชนบท”และเครือข่ายมีแรงฮึดที่จะขุดคุ้ยปมATKต่อไป และอาจถือเป็นจุดเริ่มต้นของมหากาพย์ “ทุจริตยาภาค 2”ที่กำลังจะเริ่มอีกครั้ง
ที่ต้องไม่ลืมว่า “คดีทุจริตยา” เมื่อ 24 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2540) หมอสายNGOทั้ง “ชมรมแพทย์ชนบท” เภสัชชนบท และ 30 องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสาธารณสุขต้านคอร์รัปชันเชิงนโยบายมีบทบาทสำคัญในการเปิดโปง “ขบวนการทุจริตจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ 1,400 ล้านบาท ของกระทรวงสาธารณสุข จนกลายเป็นคดีประวัติศาสตร์สามารถนำนักการเมืองอดีตรมต.สธ.เข้าคุกได้ ทำให้ “รัฐบาลนายกฯชวน” ขณะนั้น ต้องปรับพรรคร่วมรัฐบาลออก และพรรคการเมืองนั้นต้องสิ้นชื่อทางการเมือง โดยครั้งนั้นมีความคล้ายสถานการณ์ปัจจุบันที่ขณะนั้นเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องบริหารงบประมาณตามข้อตกลงที่ทำไว้ ไอเอ็มเอฟ.แต่ถูกภาคสังคมหมอและประชาชนตรวจสอบ พบว่าการทุจริตอย่างมีขั้นตอน โดยมีผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ข้าราชการผู้บริหารระดับสูงในสธ.ถึงรัฐมนตรี
โดย “คดีทุจริตยา” ครั้งนั้น ได้ส่งผลให้รัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง 2 คน ปลัด สธ. ถูกโอนย้ายไปสำนักนายกรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงในส่วนกลางและในส่วนภูมิภาคถูกไล่ออก 3 คน สสจ.ถูกปลดออก 4 คน ข้าราชการถูกสอบสวนวินัยมากกว่า 30 คน รัฐมนตรีและที่ปรึกษาทั้งที่มีการแต่งตั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ถูกส่งไปดำเนินคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นรายแรกของประเทศไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news